เปลี่ยนใครไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม

คนเราต่างเกิดและเติบโตขึ้นมาอย่างแตกต่างกันไม่มีใครที่จะเหมือนหรือสอดคล้องกันกับใครอีกคนได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว และด้วยเหตุนี้การเป็นสังคมของผู้คนจึงต้องอาศัยความสอดคล้องกันในบางส่วนและความเข้าอกเข้าใจต่อกันเพื่อการอยู่ร่วมกัน

แต่อย่างว่า คนเรามันมีความต่างเยอะหากมองในแง่บุคคล ใช่ว่าเราจะเข้ากันได้กับทุกคนเสมอไป ความราบรื่นในแง่ของความสัมพันธ์กันของสังคมกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักมักไม่ได้ชื่นมื่นอยู่ตลอดเวลา

พอดีไปเห็นประโยคหนึ่งที่คนแชร์กันในโซเชียลความว่า “You can’t change the People around you, but you can change the people around you.” ที่อ่านครั้งแรกก็ยัง งง ๆ ว่านี่มุกหรืออะไรทำไมเราไม่เก็ต แต่อ่านไปอ่านมาก็ อ๋อ รู้แล้ว มันคงแปลได้ประมาณว่า “คุณเปลี่ยนใครไม่ได้ แต่คุณสามารถเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับตัวคุณเองได้” ใช่ไหม ตามความเข้าใจของผม ซึ่งมาคิดดูแล้วก็คงจะจริง

แน่นอนว่าการเป็นมนุษย์มันต้องมีสังคม มีเพื่อน มีกลุ่มแก๊ง แต่ก็ใช่ว่าทุก ๆ คนจะทำอะไรถูกใจเราไปเสียหมด ด้วยความแตกต่างของนิสัยใจคอก็มักจะมีทั้งสิ่งที่เราถูกใจและไม่ถูกในอยู่ในนั้นด้วย เราอาจเจอคนที่ชอบนินทา หยาบคาย เอาแต่ใจตัวเอง มันก็คงเป็นบ่อเกิดขยะทับถมในจิตใจของเราเน่าเสียอยู่อย่างนั้น ซึ่งไม่ดีแน่กับสภาพจิต

แน่นอน ลำพังเราเป็นใครจะไปเปลี่ยนใจหรือนิสัยคนอื่น ๆ ให้เป็นอย่างที่เราต้องการ เผชิญกันต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นรังแต่จะแย่ลงอีกด้วย ดังนั้นประโยคข้างต้นจึงเป็นคำแนะนำที่ดีได้ ที่ว่าเราสามารถเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับตัวเองได้ เพราะฉะนั้นแล้ว หากเจอสังคมที่พาให้จิตใจเราแย่ ก็แค่ถอยออกมา อย่าไปรบราด้วยเพราะเหนื่อยเปล่า

ถอยออกมาหาสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ที่เจริญหูเจริญตา หาสังคมหรือคนที่เมื่อได้คลุกคลีด้วยแล้วเรามีความสุข ซึ่ง ณ ขณะนี้คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าที่ที่คุณอยู่ในตอนนี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่ เอาเป็นว่าหากอยู่ไปแล้วรู้สึกแย่ลง ในใจมีแต่เรื่องลบก็จงหาโอกาสปลีกออกมา แต่หากอยู่ไปแล้วมีแต่เรื่องดี ๆ หัวเราะมีความสุข ส่งเสริมไปถึงเรื่องอื่น ๆ แปลว่าคุณอยู่ถูกที่แล้วล่ะ แล้วก็จงทำทุกทางเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมนี้ไว้