โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ชื่อว่า “ซิฟิลิส” ได้กลับมาระบาดอีกครั้ง ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับจากสองปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายต่อหลายคนอาจจะคุ้นหูกับชื่อ ซิฟิลิส นี้แต่ยังไม่รู้ที่มาที่ไปหรืออาการต่าง ๆ
สังคมไทยยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้อย่างถี่ถ้วน โดยอันที่จริงโรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เคยระบาดหนักตั้งแต่อดีต แต่เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ความร้ายแรงของโรคนี้ในระยะหลัง ๆ สามารถส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้อีกด้วย โดยในอดีตโรคนี้เป็นที่น่ากลัวอย่างมากเพราะในระยะสุดท้ายของโรคสามารถส่งผลให้เสียชีวิตได้ แต่ในตอนนี้มียาที่สามารถรักษาให้หายขาดได้แล้ว
ข้อมูลเบื้อต้นที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคซิฟิลิสมีดังนี้
- เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถเป็นได้ทั้งชายและหญิง แม่สู่ลูก โดยติดต่อผ่านสารคัดหลั่ง โดยส่วนใหญ่แล้วติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- ลักษณะทางกายภาพของเชื้อตัวนี้มีรูปร่างเป็นเกลียว
- อาการของโรคนี้มีทั้งหมด 3 ระยะ โดยในระยะแรกใช้เวลาฟักตัวตั้งแต่ 10 – 90 วัน จะเกิดแผลที่อวัยวะเพศ แต่ไม่เจ็บมาก, ระยะที่ 2 พบช่วง 4 – 12 สัปดาห์ มีผื่นขึ้นฝ่ามือฝ่าเท้า ปวดข้อ ผมร่วง และเข้าสู่ระยะแฝง และในระยะที่ 3 จะส่งผลต่อระบบอวัยวะ กระดูก หัวใจ ระบบประสาท
- บางคนอาจพบแผลในลำคอ เพราะออรัลเซ็กส์
- รักษาง่าย หากตรวจพบ เพราะเชื้อไม่ดื้อยา รักษาโดยการฉีดยากลุ่ม penicillin
- ที่สำคัญเนื่องจากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การมีเซ็กส์แบบสำส่อน เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูง รวมถึงการไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย
- ผู้หญิงท้อง เชื้อสามารถแพร่ไปยังลูกในท้องส่งผลให้เด็กมีโอกาสเสียชีวิตได้
อีกทั้งโรคนี้ยังพบผู้ป่วยมากที่สุดคือช่วงวัยรุ่น 15 – 24 ปี ซึ่งมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอามัยเป็นส่วนใหญ่ อาจเพราะความรู้และความเข้าใจในเรื่องเพศนั้นถูกปิดกั้น ทำให้เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่มีความเชื่อหรือความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น มีวัยรุ่นส่วนหนึ่งเข้าใจว่าควรป้องกันเฉพาะแค่กับการซื้อบริการเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่
นอกจากซิฟิลิสแล้ว พบว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยกามโรคหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นเพิ่มขึ้นทุกปี
ในขณะที่ในสังคมยังคงยึดมั่นในขนบที่ว่า เรื่องเพศนั้นไม่ควรถูกพูดในวงกว้างและเป็นเรื่องบัดสี ด้วยเหตุนี้อาจเป็นผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ลดลง แต่ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทางออกที่ดีที่จะยับยั้งหรือลดความเสี่ยงสำหรับโรคติดต่อต่าง ๆ นั้นควรเป็นการให้ความรู้แบบเปิดเผย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและผลของการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัยอย่างถี่ถ้วน มิใช่เพียงการตื่นตัวและหาทางแก้ไขหลังยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เพราะดูเหมือนเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ
