ยังคงเป็นที่พูดถึงกันอยู่อย่างเข้มข้นกับอภิมหาภาพยนตร์แฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ในยุคนี้ กับหนังฮีโร่สังกัดค่ายมาร์เวลยูนิเวิร์ส ด้วยเรื่องราวความสนุกและความมันของเนื้อเรื่องแบบที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี จากจุดเริ่มต้นที่ปูทางมากว่า 11 ปี เริ่มจาก ไอออนแมน
และกับเรื่องล่าสุด Avengers : Endgame ที่มีเนื้อเรื่องเป็นบทสรุปของหนังมาร์เวลในเฟส 3 เป็นที่เรียบร้อย ( เหลือเพียง Spider man : Far from home ที่จะฉายเป็นเรื่องสุดท้ายของเฟส 3 ) ที่ต่างได้รับเสียงตอบรับจากแฟน ๆ ในเชิงบวกอย่างล้นหลาม โดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าจากจุดเริ่มต้นเพียงแค่ มหาประลัยคนเกราะเหล็ก จะกรุยทางพาเพื่อน ๆ Assemble ประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้
Titanic ถูกจมอีกครั้ง
และอีกเรื่องน่ายินดีที่เป็นตัวรับประกันคุณภาพของแฟรนไชส์นี้ได้ดีที่สุดก็คือ ผลรายได้รวมของหนัง Avengers : Endgame ที่ล่าสุดสามารถทำรายได้ถล่มทลาย แซงขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ใน Box Office เอาจม Titanic ลงอันดับ 3 ด้วยรายได้สูงถึง 70,518 ล้านบาทหลังเข้าฉายได้เพียง 11 วัน
จน เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับ Titanic ต้องออกมาแสดงความยินดีและชื่นชมกับอันดับและรายได้ล่าสุดของทาง Marvel
— James Cameron (@JimCameron) May 9, 2019
ทิศทางของหนังทำเงินในยุคสมัยนี้
จากความสำเร็จด้านรายได้ของ Marvel Studios นั้นพอจะทำให้เข้าใจได้แล้วว่า อุตสาหรรมภาพยนตร์นั้นยิ่งใหญ่แล้วก้าวหน้าขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้คนจริงจังกับอรรถรสในการรับชมมากขึ้น เห็นได้จากโลกโซเชียลที่มีพื้นที่ให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็น รีวิวให้คะแนน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังส่งผลต่อรายได้หนังอีกด้วย
ทฤษฎีจักรวาลหนัง
จากอันดับ Box Office 10 อันดับแรกจะเห็นได้ชัดเจนว่า 8 ใน 10 นั้นเป็นหนังที่มีจักรวาลของตัวเองเป็นเสาเข็มคอยค้ำจุนแฟรนไชส์ให้แข็งแรงและมีรากฐานที่มั่นคงด้วยจำนวนแฟนที่เพิ่มขึ้น เป็นผลดีกับรายได้
ผกผันกับหนังเดี่ยว ที่ติด Top 10 ในบอร์ดเพียงแค่ 2 เรื่อง คือ Avatar และ Titanic แถมอันดับหนึ่งก็กำลังสั่นคลอนจากความมาแรงของ Endgame อีกด้วย
ประเด็นนี้ทำให้เล็งเห็นว่า หรือต่อไปการที่จะนำมาซึ่งรายได้แซงนำขึ้นมาอย่างน้อยใน 10 อันดับแรกนั้น จะต้องเป็นหนังที่มีฐานคนดูรอคอยให้การสนับสนุนอยู่แล้ว และมีการปูเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องถึงกันทำให้เกิดการติดตามในหมู่ผู้ชม
ซึ่งนี่จะยิ่งเป็นความยากและท้าทายของหนังเดี่ยวที่จะสามารถทำรายได้ขึ้นมาสูสีกับหนังแฟรนไชส์ที่ติดอันดับอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ข้อดีอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นและเห็นได้ชัดคือการเติบโตและก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมภาพยนต์โลก ที่แข่งขันกันอยู่เสมอ และคนที่ ว้าว มากที่สุดก็คือผู้ชมอย่างเรา ๆ นี่แหละ