รับ “ผู้สูงวัย” เข้าทำงาน โครงการดีๆ ที่ “วิน-วิน” ทุกฝ่าย

อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกันแล้ว ทำให้หลายคนเริ่มเป็นกังวลว่า ถ้าบ้านเราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ

หลายบริษัทจ้างแรงงานแค่อายุ 55 ปี
เรื่องนี้ ทางกระทรวงแรงงานเล็งเห็นความสำคัญด้วยเช่นกัน โดยมองว่า แม้อายุจะมากขึ้น แต่ผู้สูงวัยถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า เพราะสะสมความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างยาวนาน และยังมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ จึงควรส่งเสริมให้อยู่ในตลาดแรงงานให้ยาวนานขึ้น ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ว่าจ้างงานถึงอายุ 55 ปีเท่านั้น

จับมือภาคเอกชนขยายอายุงานผู้สูงอายุ
โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับภาคเอกชน 12 แห่ง ในการขยายอายุการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ รวมถึงมีการปรับแก้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานและพระราชบัญญัติประกันสังคม เพื่อขยายอายุการเกษียณจาก 55 ปี เป็น 60 ปี และเพื่อคุ้มครองการทำงาน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้วย

เอกชนเริ่มนำร่องรับผู้สูงอายุเข้าทำงาน
ล่าสุด มีบริษัทเอกชนที่เริ่มนำร่องในการเปิดรับผู้สูงอายุเข้าทำงานแล้ว นั่นคือ “ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์” ที่ได้ทดลองโครงการรับเจ้าหน้าที่ร้านหนังสือที่เป็นผู้สูงวัยให้เข้ามาทำงานที่สาขา และพบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยพนักงานที่เป็นผู้สูงวัย มีความเต็มใจในการทำงาน มีความรับผิดชอบ เห็นคุณค่าของการแนะนำหนังสือ และการส่งมอบหนังสือดีๆ ให้กับผู้อ่าน จึงทำให้เกิดโครงการ “อายุ 60 ปี มีไฟในการทำงาน” ตามมา และเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในตอนนี้


เปิดรับผู้สูงอายุที่ยังไม่หมดไฟเข้าทำงาน
โดย “ซีเอ็ด” โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก เพื่อเปิดรับสมัครผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป และยังมีไฟในการทำงาน เข้ามาทำงานในตำแหน่งพนักงานร้านหนังสือ ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซนเตอร์ พร้อมยืนยันชัดเจนว่า “อายุไม่สำคัญ ขอเพียงยังมีไฟในการทำงาน รักการอ่าน รักร้านหนังสือ อยากส่งผ่านคุณค่าของการอ่าน ให้กับเด็กๆ และคนอื่นๆ เท่านั้นก็พอ”

เสียงตอบรับดี มีทั้งชื่นชมและสนใจร่วมงาน
หลังจากเพจเฟซบุ๊ก SE-ED Book Center โพสต์เปิดรับสมัครไปตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ปรากฏว่า โครงการดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี เมื่อมีผู้สูงอายุให้ความสนใจจำนวนมาก รวมถึงมีชาวเน็ตร่วมกันแชร์ข่าวดีให้ผู้อื่นได้รับทราบกว่า 4,000 ครั้ง โดยส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ และช่วยให้ผู้สูงวัยรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า

“วิน-วิน” เมื่อบริษัทที่ว่าจ้างได้รับการยกเว้นภาษี
หากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยดี ก็น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ทำตามในอนาคต เพราะนอกจากจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรได้แล้ว บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่รับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าทำงาน ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุด้วย ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560