ยุคนี้ใครที่ขับรถเข้าห้างสรรพสินค้า หรือขับเข้าที่จอดรถตามอาคารสถานที่ต่าง ๆ น่าจะต้องเจอกับเจ้าเครื่องจ่ายบัตรจอดรถแบบอัตโนมัติกันมาไม่มากก็น้อยนะครับ เพราะสมัยนี้สถานที่ต่าง ๆ เริ่มปรับการใช้งานมาเป็นตู้จ่ายบัตรกันเกือบหมดแล้ว เพียงแต่ว่าบางที่ ขาออกยังมีพนักงานเก็บบัตรอยู่ แต่บางที่ก็เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
เอาจริง ๆ การที่ต้องขับรถเข้าไปเทียบเพื่อรับบัตร ไม่ว่าจะรับจากตู้หรือรับจากพนักงาน มันก็ไม่ค่อยจะต่างกันเท่าไรนะครับ สิ่งสำคัญก็คือการกะระยะให้พอเหมาะ เพียงแต่ว่าหากเป็นตู้ที่มีพนักงานจ่ายบัตร จะสามารถยืดหยุ่นและอุ่นใจมากกว่า เพราะหากเป็นตู้อัตโนมัติหากจอดห่างออกมาหน่อย หรือจู่ ๆ บัตรไม่ออก จะทำให้เสียเวลาทันที ทั้งรถเรา และรถที่ตามหลังมา
ในสมัยที่ทางด่วนบูรพาวิถีนำเอาเครื่องจ่ายบัตรมาใช้ใหม่ ๆ ก็ต้องปรับตัวกันอยู่พักใหญ่ แต่นั่นเป็นการขับรถแบบทางตรงยาว ๆ แล้วเข้าไปเทียบข้างที่ตู้รับบัตรเลย แต่ปัญหาคือในยุคนี้ มีบางสถานที่เป็นทางเข้าแบบปราบเซียนครับ จะให้เราขับเข้าไปตรง ๆ เลยก็ไม่ได้ เพราะดันไปติดตั้งตู้จ่ายบัตรอัตโนมัติอยู่บริเวณทางเลี้ยวเข้าพอดี
คือคุณเลี้ยวรถปุ๊บต้องเอื้อมมือไปกดรับปั๊บเลย เท่านั้นยังไม่พอครับ บางสถานที่จุดที่ตั้งตู้จ่ายบัตรยังเป็นทางลาดเอียงเพิ่มท่ายากให้กับคนขับเข้าไปอีก ซึ่งผมเอง หากเจอปัญหาระยะมันห่างเกินไป ส่วนใหญ่จะพยามยามเอื้อมไปคว้าก่อน บางทีสุดเอื้อมถึงจะคว้าได้ และหากไม่ได้จริง ๆ ถึงค่อยเปิดประตูลงไปกดรับ
อารมณ์เหมือนเวลาเราขับรถอยู่คนเดียวและต้องการจะเอื้อมไปหยิบของที่เบาะหลังชนิดสุดเอื้อมและต้องหยิบให้ได้แบบนั้นเลยครับ ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงเคสอาการบาดเจ็บแบบแปลก ๆ ของนักกีฬาในอดีตอย่างเดวิด เจมส์ ที่เคยบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังจนหลุดทีมชาติ เนื่องจากพยายามเอื้อมไปหยิบรีโมตทีวี
หรือกระทั่งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว มาร์ก มาร์เกซ ที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายหลังจากการผ่าตัด เคยมีการเปิดเผยว่าอยู่ ๆ ก็เกิดเจ็บซ้ำขึ้นมาอีกทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านเฉย ๆ เพียงเพราะว่าดันไปเอี้อมเปิดหน้าต่างบ้านตัวเอง จนทำให้แผ่นไทเทเนียมซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยดามกระดูกหลังผ่าตัดได้รับความเสียหาย จนต้องเลื่อนวันคัมแบ็กออกไปอีกในตอนนั้น
กรณีการเอื้อมหยิบบัตรจอดรถที่ผมร่ายยาวมานี่ก็คล้าย ๆ กันครับ คือมันดูเหมือนเรื่องตลกที่ไม่เป็นเรื่อง แต่หากเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นกับตัวเราหรือคนใกล้ชิด บอกเลยว่าไม่ตลกแน่นอน เพราะมันเจ็บจริงนะครับ ส่วนจะเจ็บมากเจ็บน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของบุคคลนั้น ๆ ด้วย ถ้าทายาแล้วหายก็ดีไป แต่หากต้องถึงขั้นผ่าตัดขึ้นมา อันนี้งานเข้าเต็ม ๆ
มาถึงตรงนี้ต้องขออภัยเจ้าของสถานที่ที่ติดตั้งเครื่องจ่ายบัตรจอดรถอัตโนมัติที่อยู่ในมาตรฐานอยู่แล้วนะครับ แต่ยังมีอีกหลายที่ในกทม. ครับ ที่ไม่มีความรับผิดชอบ คนที่ติดตั้งไม่ได้ใช้งานเอง! เพราะรู้เลยว่าหากเขามีการทดสอบการขับรถเพื่อจอดรับบัตรจริง ๆ จะไม่มีการตั้งตู้บริเวณจุดเลี้ยว หรือทางลาดชันแน่นอน
ในฐานะคนใช้รถ แนะนำว่าเราควรป้องกันตัวเองก่อน อย่างน้อยก็ต้องกะระยะให้พอดี และหากเอื้อมไม่ถึงจริง ๆ ก็ไม่ควรฝืนครับ ยอมเสียเวลาหน่อย ขออภัยคันหลัง เปิดประตูลงไปหยิบเป็นดีที่สุด เพราะหากบาดเจ็บจากอาการ “สุดเอื้อม” เพียงเพราะตู้จ่ายบัตรที่ติดตั้งในจุดที่ไม่ได้มาตรฐาน จะไปฟ้องร้องเอาผิดจากเจ้าของสถานที่ก็คงทำได้ แต่จะชนะหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่ง่ายครับ!