ถอดรหัสนโยบาย 6 พรรคใหญ่ ตรงใจเจนฯ ไหนบ้าง

ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 27 ของประเทศไทย นับเป็นการเลือกตั้งในยุคดิจิทัลที่มีคนไทยซึ่งมีความหลากหลายทางเจเนอเรชันและความคิดที่มีสิทธิ์ในการลงคะแนนครั้งนี้ และนับเป็นการเลือกตั้งที่แต่ละพรรคการเมืองต่างขนนโยบายเพื่อขายให้กลุ่มเป้าหมายของตนเองกันมาแบบเต็มหน้าตัก แม้ว่านโยบายประชานิยมประเภทแจกเงิน ปล่อยเงินกู้ หรือรักษาพยาบาลฟรี จะยังคงเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องมีทุกพรรค แต่ก็ใช่ว่านโยบายดังกล่าวจะตรงใจไปทุกเจเนอเรชัน

บทความชิ้นนี้จะนำเอามุมมองของแต่ละเจเนอเรชัน มาจับคู่กับนโยบายพรรคการเมืองใหญ่ 6 พรรคอันได้แก่ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ เพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ มาดูกันว่านโยบายพรรคไหนตรงกับใจคนในเจเนอเรชันไหนบ้าง

ไซเรนท์ เจน (Silent Generation) ผู้ที่มีช่วงอายุ 78-98 ปี ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 2,227,540 คน

Silent Generation เป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ.2471-2488 ซึ่งในปัจจุบันอายุของกลุ่มนี้อยู่ระหว่าง 78-95 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเจเนอเรชันอื่น ๆ และพบกับเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมในช่วงปี พ.ศ.2480-2550

ด้วยประสบการณ์ที่คนในเจเนอเรชันนี้ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมมาโดยตลอด ทำให้พวกเขาเห็นความสำคัญของความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมและการเมืองที่มีเสถียรภาพ ทำให้คนในเจเนอเรชันนี้ ต้องการรัฐบาลและผู้นำที่สามารถทำให้บ้านเมืองไม่มีความวุ่นวาย ให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง ซึ่งในสายตาของคนเจเนอเรชันนี้มองว่าอะไรที่ดีอยู่แล้วก็ให้คงเอาไว้ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนแปลง

นโยบายพรรคการเมืองที่น่าจะถูกใจประชากร Silent Generation ของทั้ง 6 พรรคมีอะไรบ้าง

  • พรรคพลังประชารัฐ: สวัสดิการผู้สูงอายุเกิน 80 ปี รับ 5,000 บาท
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ: ปรับเบี้ยผู้สูงอายุให้เท่ากันทุกช่วง
  • พรรคประชาธิปัตย์: ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาท
  • พรรคภูมิใจไทย: จัดตั้งกองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป โดยผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิในกรมธรรม์ประกันชีวิตทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต
  • พรรคก้าวไกล: เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 3,000 บาท ภายในปี 2570 เพื่อยกระดับรายได้ของผู้สูงอายุให้พ้นเส้นความยากจน
  • พรรคเพื่อไทย: เพิ่มประสิทธิภาพของ 30 บาทรักษาทุกโรค ให้ผู้สูงอายุสามารถใช้บริการที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) ผู้ที่มีช่วงอายุ 59-77 ปี ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 11,153,133 คน

Baby Boomer เป็นเจเนอเรชันที่มาจากยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมคล้ายกับกลุ่มไซเรนท์ เจน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจเกษตรกรรมไปสู่อุตสาหกรรม การเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี และการอพยพเข้าเมืองของคนจากต่างจังหวัด 

คนในเจเนอเรชันนี้มักจะมีความเชื่อในการสร้างตัวด้วยการทำงานอย่างหนัก พวกเขาต้องการความมั่นคงและเสถียรภาพในชีวิต ขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านความยากลำบากของสังคมเกษตรกรรมที่เปลี่ยนมาสู่สังคมอุตสาหกรรม ทำให้พวกเขาใช้เหตุและผลในการตัดสินใจ และใช้เงินด้วยความระมัดระวังเพื่อให้มีชีวิตเกษียณที่ไม่ลำบาก

จากประสบการณ์และมุมมองชีวิต ทำให้เจเนอเรชัน Baby Boomer มีมุมมองทางการเมืองที่เน้นตัวผู้นำที่ประสบความสำเร็จและมีความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันคนในเจเนอเรชันนี้จะมีความเชื่อมั่นในระบบการเมืองแบบเดิม ๆ และมีความเอื้ออาทรต่ออำนาจและสถาบันต่าง ๆ

ด้วยนโยบายสำหรับผู้สูงวัย มักจะเป็นการรวมเอาเจเนอเรชัน Silent Gen และ Baby Boomer มาไว้ด้วยกัน แต่สำหรับคนในเจเนอเรชัน Baby Bommer ที่ยังคงเป็นผู้บริหารระดับสูงอีกจำนวนมาก ยังคงต้องการเห็นนโยบายทางการเมืองที่เน้นไปที่สังคมและให้ความสำคัญต่อสถาบัน

นโยบายพรรคการเมืองที่น่าจะถูกใจประชากร Baby Boomer ของทั้ง 6 พรรคมีอะไรบ้าง

  • พรรคพลังประชารัฐ: สานต่อบัตรพลังประชารัฐ 
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ: เพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัสและเพิ่มโอกาสจ้างงานผู้สูงวัย
  • พรรคประชาธิปัตย์: บัตรประชาชนรักษาโรคฟรี
  • พรรคภูมิใจไทย: นโยบายทางสาธารณสุข ให้ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยโรคไตเข้าถึงการรักษา
  • พรรคก้าวไกล: เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 3,000 บาท ภายในปี 2570 
  • พรรคเพื่อไทย: เพิ่มประสิทธิภาพของ 30 บาทรักษาทุกโรค ให้ผู้สูงอายุสามารถใช้บริการที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

เจเนอเรชัน เอ็กซ์ (Generation X) ผู้ที่มีช่วงอายุ 43-58 ปี ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 16,091,150 คน

กลุ่มเจเนอเรชัน เอ็กซ์ เป็นกลุ่มที่มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยคนเจเนอเรชันนี้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศ เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการศึกษาและเข้าถึงเทคโนโลยีมากกว่า Silent Generation และ Baby Boomers

ทั้งนี้ คนเจเนอเรชัน เอ็กซ์ นั้น ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองชนิดสุดขั้วมาตั้งแต่รัฐบาลทหารจนถึงเสรีนิยม และ ยังมีประสบการณ์วิกฤติเศรษฐกิจชนิดที่ประเทศเกือบล้มละลาย ขณะเดียวกันคนในเจนฯ เอ็กซ์ ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงจากยุคแอนะล็อกสู่ดิจิทัล อันทำให้พวกเขาต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น คนในเจเนอเรชันนี้จึงมองหาการเมืองที่มีการดำเนินงานที่เป็นระบบ มีเสถียรภาพ เน้นไปที่เรื่องของเศรษฐกิจ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการสร้างโลกให้น่าอยู่เพื่อคนรุ่นต่อไป

นโยบายพรรคการเมืองที่น่าจะถูกใจประชากร Generation X ของทั้ง 6 พรรคมีอะไรบ้าง

  • พรรคพลังประชารัฐ: สวัสดิการรัฐประชารัฐจากครรภ์มารดา, น้ำมันประชาชน, บริหารจัดการน้ำและที่ดินทำกิน
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ: ลดภาษีผู้ประกอบการที่จ้างงานผู้สูงวัย, สร้างระบบแพทย์ 24 ชม., อาชีพอิสระเข้าระบบประกันตน, แก้กฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน
  • พรรคประชาธิปัตย์: ชาวนารับ 30,000 บาท, ธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชน, เอสเอ็มอีมีแต้มต่อ, เอกสารทำกินในที่ดินของรัฐ 
  • พรรคภูมิใจไทย: พักหนี้สามปี, สร้างเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล, รักษาเมืองหลังพักฟื้นเมืองรอง
  • พรรคก้าวไกล: หยุดส่วยรีดไถ เลิกตั๋วเส้นสาย, คืนที่ดิน 10 ล้านไร่, ขึ้นค่าแรง, ลดค่าไฟ
  • พรรคเพื่อไทย: จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, จัดทำกรรมสิทธิที่ดินถูกต้องและเป็นธรรม, ปราบปรามยาเสพติด และใช้เทคโนโลยีช่วยการเกษตร

เจเนอเรชัน วาย (Generation Y) ผู้ที่มีช่วงอายุ 27-42 ปี ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 15,144,468 คน

“เจเนอเรชัน วาย” หรือ Gen Y เป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังวิกฤติเศรษฐกิจในเอเชียหรือวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยคนในเจเนอเรชันนี้มักมองโลกและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในมุมมองที่มีการเปรียบเทียบกับสังคมที่ตนเองอยู่กับสังคมโลก ขณะเดียวกันมีความเชื่อในความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงและการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า

ที่ผ่านมาจะเห็นเจนฯ วายในเมืองไทย มักเข้าร่วมและสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองและการชุมนุมต่าง ๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พวกเขาเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเมืองในประเทศไทยที่พวกเขามองว่าจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้ หากมีการปราบปรามเรื่องทุจริตคอรัปชั่นและให้โอกาสทุกคนได้เท่าเทียมกัน

นโยบายพรรคการเมืองที่น่าจะถูกใจประชากร Generation Y ของทั้ง 6 พรรคมีอะไรบ้าง

  • พรรคพลังประชารัฐ: แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ, น้ำมันประชาชน
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ: คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกันภาค 2, เบิกส่วนประกันตน 30% มาใช้ก่อนได้, ทำประเทศไทยให้มีคุณภาพ
  • พรรคประชาธิปัตย์: ประกันรายได้จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ข้าวโพด, อินเทอร์เน็ตฟรี, ปลดล็อก กบข. 
  • พรรคภูมิใจไทย: เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว, กำจัด Low Season, ท่องเที่ยวแบบ Low Carbon, ฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์
  • พรรคก้าวไกล: ปิดสวิตช์ 3 ป. รัฐโปร่งใส, รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด, หลักสูตรใหม่คืนเวลาสอนให้ครู, กำหนดเพดานปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ปักธงไทยในอุตสาหกรรมชิป
  • พรรคเพื่อไทย: เทคโนโลยีช่วยการเกษตร, ใช้ระบบ Blockchain ลดการคอรัปชั่น, รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, ระบบป้องกันภัยไซเบอร์, ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ทุกมิติ

เจเนอเรชัน ซี (Generation Z) ผู้ที่เกิดระหว่างปี 2540-2555 หรือมีช่วงอายุ 11-26 ปี แต่หากนับเฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง 18-26 ปี มีจำนวนทั้งสิ้น 7,670,354 คน

สำหรับกลุ่ม Generation Z ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เมื่อคนที่มีอายุ 11 ปีขึ้นไปเติบโตขึ้นมา จะทำให้เจเนอเรชันนี้มีจำนวนมากกว่าคนเจเนอเรชัน เอ็กซ์ ที่เป็นกลุ่มใหญ่ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นที่น่าสนใจว่า คนในเจนฯ นี้ เติบโตขึ้นมาในยุคดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ และเป็นผู้ใช้โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว

ขณะเดียวกันเสียงของคนเจนฯ Z ในปัจจุบันนั้น เป็นเสียงที่สามารถเรียกความสนใจให้กับคนทุกเจนฯ ได้ เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีการติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ซึ่งส่งผลให้พวกเขามีความรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกและมีอิสระในการตัดสินใจในชีวิตของตนเอง

ดังนั้น นโยบายที่จะตอบโจทย์ของคนเจเนอเรชันนี้ได้ น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี และการให้อิสระแก่พวกเขาในการเรียน ทำงาน และตัดสินใจต่ออนาคตตนเอง

นโยบายพรรคการเมืองที่น่าจะถูกใจประชากร Generation Z ของทั้ง 6 พรรคมีอะไรบ้าง

  • พรรคพลังประชารัฐ: ไม่มีนโยบายที่น่าจะเข้าได้กับ Generation Z
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ: ให้ทุนเรียนวิชาชีพ, ทำประเทศไทยให้มีคุณภาพ
  • พรรคประชาธิปัตย์: อินเทอร์เน็ตฟรี, เรียนฟรีถึงปริญญาตรี
  • พรรคภูมิใจไทย: ท่องเที่ยวสมัยใหม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ 
  • พรรคก้าวไกล: ยกเลิกเกณฑ์ทหาร, เลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด, รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด, กำหนดเพดานปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • พรรคเพื่อไทย: 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต, ใช้ระบบ Blockchain ลดการคอรัปชั่น, ระบบป้องกันภัยไซเบอร์, ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ทุกมิติ