รวม “7 เหตุการณ์สำคัญ” วงการลูกหนังโลกปี 2016

เหลืออีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ศักราชใหม่กันแล้ว สำหรับปี 2016 ซึ่งกำลังจะผ่านพ้นไป นับเป็นอีกปีที่มีเหตุการใหญ่ๆ สำคัญๆ เกิดขึ้นในวงการลูกหนังโลก ซึ่งเรารวบรวมไว้ ณ ที่นี้เพื่อเป็นการทบทวนและเตือนความทรงจำกันอีกครั้ง

7.บราซิลคว้าเหรียญทองฟุตบอลชายในโอลิมปิกเกมส์ 2016
แม้จะมีดีกรีเป็นแชมป์โลก 5 สมัย แต่น่าเหลือเชื่อที่ทีมแซมบ้าไม่เคยประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองฟุตบอลชายในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 30 ครั้งก่อนหน้านี้เลย เพราะเหรียญรางวัลที่ผ่านมามีเพียง 3 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดงเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อนครริโอ เด จาเนโร ได้เป็นเจ้าภาพในเดือนสิงหาคมปีนี้ บราซิลจึงหมายมั่นปั้นมือเป็นพิเศษที่จะคว้าแชมป์เดียวที่ยังขาดมาครองให้ได้ ถึงขั้นยอมเก็บผู้เล่นหลักๆ ไว้แข่ง “ริโอเกมส์” โดยยอมทิ้งถ้วย “โกปา อเมริกา” ฉบับฉลองครบรอบ 100 ปี ซึ่งเตะในเวลาไล่เลี่ยกัน

สุดท้ายบราซิลที่นำทีมโดยเนย์มาร์ก็ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศไปพบกับเยอรมนี เกมเป็นไปด้วยความตึงเครียด และเสมอกัน 1-1 หลังหมดเวลา 120 นาที ต้องดวลลูกโทษตัดสิน และเป็นเจ้าภาพที่เฉือนชนะหวุดหวิด 5-4 ได้รับเหรียญทองที่สนามเก่าแก่อย่างมาราคาน่า ท่ามกลางความยินดีของชาวบราซิลทั้งประเทศ

6.โปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2016
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นทีมฝีเท้าดีที่น่าจับตาแทบทุกทัวร์นาเมนต์ที่ร่วมแข่งขัน แต่โปรตุเกสก็ไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ อย่างถ้วยฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลยูโรมาก่อนเลย

สำหรับศึก “ยูโร 2016” เมื่อกลางปี แข้งฝอยทองทำผลงานลุ่มๆ ดอนๆ จนน่าใจหาย รอบแรกคนมองว่าอยู่ในกลุ่มไม่หนักกับไอซ์แลนด์, ออสเตรีย และฮังการี แต่กลับทำได้แค่เสมอทั้ง 3 นัด และเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด และกว่าที่พวกเขาจะเอาชนะคู่แข่งในเวลา 90 นาทีได้ก็ต้องรอถึงรอบรองชนะเลิศกับเวลส์เข้าไปแล้ว

มาถึงนัดชิงกับเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ผู้เล่นคนสำคัญที่สุดอย่างกัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ดันเจ็บจนต้องออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 25 กระนั้นก็ยังต่อเวลาเฉือนชัยทีมแดนน้ำหอม 1-0 คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์หนแรกไปครองอย่างเหลือเชื่อ

5.ชิลีคว้าแชมป์โกปา อเมริกา เซนเตนาริโอ
อันที่จริง ปีที่แล้วศึกโกปา อเมริกา เพิ่งจะเตะกันไปแหม็บๆ แต่ทัวร์นาเมนต์ลูกหนังระดับทวีปที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็กลับมาเตะกันอีกครั้งในปีนี้ เนื่องจากเป็นวาระพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปีของการแข่งขันพอดิบพอดี

และคู่ชิงชนะเลิศปีนี้ก็ดันเป็นคู่เดิมคู่เดียวกับเมื่อปีที่แล้ว แถมบทสรุปยังออกมาไม่แตกต่างกันเสียอีก เมื่อชิลีย้ำแค้นอาร์เจนตินา ในการดวลจุดโทษหลังเสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที (ปีที่แล้วดวลจุดโทษชนะ 4-1 ปีนี้ชนะ 4-2)

หลังจบการแข่งขัน ลิโอเนล เมสซี่ แข้งเทพของฟ้า-ขาวเกิดอาการเฮิร์ทสุดๆ เพราะพาทีมเข้าชิงทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 3 รายการติด คือ ฟุตบอลโลก 2014, โกปา อเมริกา 2015 และโกปา อเมริกา เซนเตนาริโอ แต่กลับผิดหวังเป็นแค่รองแชมป์ทั้ง 3 ครั้ง จึงน้อยใจประกาศอำลาทีมชาติทันที

เดือดร้อนแฟนบอลและคนใหญ่คนโตในประเทศต้องออกมาเรียกร้องให้เขากลับใจสู้ต่อ สุดท้ายเมสซี่ใจอ่อนจึงยอมกลับมาเล่นให้อาร์เจนตินาอีกครั้ง

4.เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-16
ว่ากันว่านี่คือการพลิกโผที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก เมื่อทีม “สุนัขจิ้งจอก” ซึ่งหนีตกชั้นแบบทุลักทุเลเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านั้น ก้าวไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ลีกลูกหนังซึ่งมีอัตราการแข่งขันสูสีเข้มข้นที่สุดได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ช่วงออกสตาร์ตฤดูกาล บริษัทรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษวางอัตราต่อรองเลสเตอร์เป็นแชมป์แบบไกลสุดกู่ 5,000-1

ทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ชแบบกะทันหันก่อนเปิดฤดูกาลได้ไม่เท่าไร ทั้งที่นักเตะทั้งทีมมีค่าตัวรวมกันน้อยกว่ายักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า และทั้งที่ผู้เล่นเกือบทั้งทีมเป็นนักเตะโนเนมที่น้อยคนนักจะรู้จัก แต่พวกเขาก็ลบทุกคำสบประมาท ก้าวข้ามความเป็นไปไม่ได้คว้าแชมป์ไปครองด้วยแผนการอันยอดเยี่ยมของผู้จัดการทีม เคลาดิโอ รานิเอรี่ รวมทั้งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการเล่นอย่างมีวินัยของนักเตะ

เลสเตอร์ปิดฤดูกาลด้วยผลงานชนะ 23 นัด เสมอ 12 นัด แพ้เพียง 3 นัด มี 81 คะแนน ขณะที่รองแชมป์อย่างอาร์เซน่อลโดนทิ้งห่างถึง 10 คะแนน

3.เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก 2016
หลังจากคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นสมัยที่ 11 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชมือใหม่ ซีเนอดีน ซีดาน ซึ่งเพิ่งขยับมาทำหน้าที่แบบกะทันหัน ราชันชุดขาวก็มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นเพื่อเตะบอลประเพณีถ้วย “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ” สำหรับสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก

ในรอบรองชนะเลิศ มาดริดเอาชนะคลับ อเมริกา จากเม็กซิโก 2-0 ก่อนเอาชนะคาชิม่า แอนท์เลอร์ส แชมป์เจ-ลีกของญี่ปุ่น 4-2 ในรอบชิงชนะเลิศ โดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำแฮตทริกในนัดดังกล่าว เป็นแชมป์ถ้วยนี้สมัยที่ 2 ของราชันชุดขาวต่อจากปี 2014

2.โรนัลโด้คว้ารางวัลบัลลงดอร์ 2016
หลังจากนำทีมชาติโปรตุเกสและเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ในปีเดียวกัน โรนัลโด้ก็เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี “บัลลงดอร์” มาครองในปีนี้ และบทสรุปที่ออกมาก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่หลายคนคาดการณ์ แข้งดังวัย 31 ปี คว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปครองเป็นสมัยที่ 4 ต่อจากปี 2008, 2013 และ 2014 ขาดอีกครั้งเดียวจะได้รางวัลเท่ากับลิโอเนล เมสซี่ คู่ปรับตลอดกาลของตัวเองแล้ว

1.โศกนาฏกรรมของทีมชาเปโคเอนเซ่
เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญส่งท้ายปี 2016 เมื่อเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำของสายการบิน “ลาเมีย” เที่ยวบิน 2933 ตกที่ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ส่งผลให้นักเตะและสต๊าฟโค้ชทีมชาเปโคเอนเซ่ ในลีกดิวิชั่น 1 ของบราซิลเสียชีวิตเกือบทั้งทีม

เที่ยวบินดังกล่าวเป็นการเช่าเหมาลำเพื่อพานักเตะ สต๊าฟโค้ช และผู้สื่อข่าว เดินทางไปแข่งขันรายการ “โกปา ซูดาเมริกาน่า” หรือฟุตบอลถ้วยรองของอเมริกาใต้ รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก กับทีมแอตเลติโก นาซิอองนาล ของโคลอมเบีย นับเป็นการเข้าชิงรายการนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากชาเปโคเอนเซ่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกสูงสุด 3 ฤดูกาลก่อนหน้านั้น

จากผู้โดยสารและลูกเรือรวม 77 คน มีผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากเหตุการณ์นี้ 6 คน ในจำนวนนี้เป็นนักเตะของชาเปโคเอนเซ่ 3 คน คือ แจ๊คสัน โฟลมันน์, อลัน รุสเชล และเอลิโอ เอร์มิโต้ ซัมเปียร์ เนโต้ ขณะที่ดานิโล่ นายทวารของทีม รอดจากเหตุเครื่องบินตกในที่เกิดเหตุ แต่เสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนอีก 3 คนที่รอดชีวิต เป็นลูกเรือ 2 คน และผู้สื่อข่าว 1 คน

สำหรับสาเหตุของเครื่องบินตก คาดว่าเป็นเพราะขึ้นบินจากประเทศโบลิเวียทั้งที่มีน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ เมื่อน้ำมันหมดเครื่องจึงตกกลางทาง

หลังโศกนาฏกรรมดังกล่าว จึงยกเลิกเกมเตะนัดชิงชนะเลิศ โกปา ซูดาเมริกาน่า ขณะที่คู่ชิงอย่างแอตเลติโก นาซิอองนาล ได้ขอให้สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ มอบแชมป์ดังกล่าวให้ชาเปโคเอนเซ่ ซึ่งสหพันธ์เห็นด้วยและมอบถ้วยแชมป์กับเงินรางวัลให้สโมสรเล็กๆ ของเมืองชาเปโก้ในเวลาต่อมา