ฐานันดรที่5เมื่อใครบนโลกใบนี้ก็เป็นสื่อได้?

สวัสดีวันจันทร์ที่ยังคงครึ้มฟ้าครึ้มฝนค่ะ และน่าจะเป็นวันจันทร์ที่หลายคนกำลังกังวลใจ กำลังสนุกสนาน กำลังเมินหน้า หรือแม้กระทั่งส่งสายตาอันว่างเปล่าไปยัง ไทม์ไลน์บนโซเชียลมีเดีย ของตนเองที่กำลังเต็มไปด้วย ข่าวอาชญากรรมแบบถึงลูกถึงคน เป็นข่าวที่ทำให้ผู้ต้องหารายหนึ่งกลายเป็นที่สนใจของคนทั้งเมือง และเป็นข่าวที่ถูกจุดความสนใจมากจากสื่อยุคใหม่ ที่ไม่ใช่สื่อกระแสหลักที่เรียกว่าเหล่าฐานันดรที่ 5 หรือ Fifth Estate

คำจำกัดความของ ฐานันดรที่ 5 หรือ Fifth Estate นั้น “นิค เดวี่ยส์” ปรมาจารย์ของวงการสื่อ ได้เคยกล่าวไว้และถูกใช้ในช่วงจบของภาพยนตร์เรื่อง The Fifth Estate เอาไว้ว่า

“เคยมีช่วงเวลาหนึ่งที่หนังสือพิมพ์ถูกห้ามไม่ให้รายงานการประชุมของรัฐบาล แต่แล้ววันหนึ่งมีก็มีนักหนังสือพิมพ์รายหนึ่งกล้าที่จะตีพิมพ์ออกมาเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้สิ่งที่รัฐบาลทำ ความกล้าหาญของนักข่าวคนนั้นทำให้ฐานันดรที่สี่ก็คือนักหนังสือพิมพ์อย่างพวกเราก็ถือกำเนิดขึ้นมา แต่ในวันนี้เมื่อมีการคิดค้นสื่อในรูปแบบใหม่ ทำใครก็ได้บนโลกใบนี้สามารถรายงานหรือตีพิมพ์ความจริงที่พวกเขารู้มา โดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของผู้สื่อข่าวและมันคือการก่อกำเนิดฐานันดรที่ห้า ที่จะมีพลังในการเปลี่ยนสังคมเปลี่ยนโลกในปัจจุบันมากกว่าเดิม แลเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกจะต้องระวังต่อผลกระทบที่จะตามมา”

การอธิบายถึงสื่อยุคใหม่แบบ นิค เดวี่ยส์ น่าจะทำให้คุณผู้อ่านเห็นภาพชัดขึ้นนะคะ อันที่จริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นบนไทม์ไลน์ของคุณเองในวันนี้ ก็คือความสนใจของคุณที่ถูกบันทึกค่ามาจากการกดติดตาม หรือ กดไลค์เพจในอดีต หากเราไม่ชอบวิธีการหรือเนื้อหาก็เพียงแค่ กดยกเลิกติดตาม ไทม์ไลน์ คุณก็จะมีแต่สิ่งที่คุณอยากให้เป็นในปัจจุบัน แต่อาจจะยากหน่อยเพราะการได้เสพ ดราม่าซ้ำๆทุกวันก็เหมือนการได้กินอาหารรสจัดที่ใส่ผงปรุงรสจนทำให้ยากเหลือเกินที่จะเลิกแล้วหันไปกินอาหารที่มีรสตามธรรมชาติดั่งเดิมได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องค่อยๆลดค่ะ เพราะคุณชอบเสพเนื้อหาแบบไหน คุณก็จะได้สังคมและสภาพแวดล้อมแบบนั้น แม้จะมีบางท่านเถียงกลับมาว่า ก็มันเป็นสิทธิของฉันที่จะเสพข่าวแบบไหนก็ได้ ถูกค่ะ เป็นสิทธิของคุณ แต่ระวังนะคะเสพของไม่ดีเข้าตัวมากๆ ส่งผลให้สายตาและสมองเสื่อมได้

แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ