ในวิกฤตเราจะได้เห็นธาตุแท้ของคน

ไตรมาสแรกของปี 2563 กำลังจะผ่านพ้น ขณะที่วิกฤตไวรัสระบาดก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับสภาวะทางเศรษฐกิจ ที่อีกสองไตรมาสข้างหน้าคุณอาจได้เห็นเหตุการณ์ที่ช่วงชีวิตคนหนึ่งคนจะได้เจอเพียงครั้งเดียว ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายเจ้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ฤดูหนาวครั้งนี้จะยาวนานถึง 6 เดือน”

เป็นสภาวะวิกฤตระดับโลกที่หลายคนพยายามจะหาทางรอดให้กับตนเอง เพราะผลกระทบไม่ใช่แค่คนติดไวรัส แต่กระเทือนไปถึงระบบสาธารณสุขทั้งประเทศ กระเทือนไปถึงระบบเศรษฐกิจที่ปัจจุบันธูรกิจแต่ละประเภทนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความสั่นสะเทือนของระบบทั้งสองนี้ก็ทำให้ทุกประเทศสั่นคลอนได้แล้ว และในภาวะการณ์เช่นนี้เราท่านที่เป็นมนุษย์และยังต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป ก็จะได้เห็นความเห็นแก่ตัวของคน ทั้งที่ไม่รู้จัก ทั้งที่เคยรู้จัก คนรู้จัก หรือแม้กระทั่งคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน

ความเห็นแก่ตัวนั้นมาพร้อมกับสัญชาตญานเอาตัวรอด เคยมีภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่องหนึ่งที่พระเอกของเรื่องมีตราบาปอยู่ในใจ เมื่อเขาพยายามจะเอาตัวรอดจากการจมน้ำ เลยกดคนที่กำลังมาช่วยให้จมน้ำเพื่อให้ตัวเองรอด เรื่องราวแบบนี้ในชีวิตจริงมีให้เห็นตลอดเวลา เมื่อคนเราคิดจะเอาตัวรอด พวกเขาจะทำทุกวิถีทางและปลดปล่อยสัญชาตญานดิบของตนเองออกมา โดยไม่คิดว่าถ้ารอดไปได้เพียงคนเดียว ครอบครัวเดียว บริษัทเดียว แล้วหลังจากนั้นจะอยู่อย่างไร

หลายวันก่อนได้ดูรายการ “สถานีประชาชน” ทางไทยพีบีเอส ดำเนินรายการโดยคุณ “อรอุมา เกษตรพืชผล” เธอได้สัมภาษณ์เจ้าของกิจการผลิตพาทิชั่นสำหรับใช้ในงานอีเวนต์ ซึ่งในเวลานี้ งานอีเวนต์ถูกสั่งให้หยุดจัดทั้งหมด แน่นอนว่าไม่มีงาน แต่ยังมีลูกจ้างที่ต้องเลี้ยง เจ้าของก็พยายามหาทางให้ลูกจ้างมีงานทำ ด้วยการทดลองประกอบพาทิชั่นให้กลายเป็นห้องพักสำหรับโรงพยาบาลสนาม เพื่อช่วยโรงพยาบาลที่มีความต้องการ โดยไม่เกี่ยงว่าเป็นโรงพยาบาลรัฐ หรือเอกชน

การดำเนินการทั้งหมดนั้น ทำให้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเจ้าของกิจการบอกว่า “ผมคิดง่าย ๆ ว่า ถ้าผมช่วยให้โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น ไวรัสหยุดระบาดได้เร็วขึ้น ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้นเช่นกัน” เป็นคำตอบที่ฟังครั้งเดียวก็ทำให้เห็นถึงวิธีคิดของคนที่มองถึงคนรอบข้างถึงผลในอนาคตข้างหน้า

ขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นข่าวว่ามีการกักตุนสินค้า คนที่ฉวยโอกาสในการหลอกลวงผู้บริโภค คนที่คิดถึงแต่ตัวเองเอาความสะดวกสบายตัวเองมาก่อนโดยไม่สนใจมาตรการจากภาครัฐ และที่ชัดเจนที่สุดคือการลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ สามเดือน เดือนละ 5,000 บาทสำหรับแรงงานนอกระบบ แต่กลับกลายเป็นว่ามีคนที่ไม่ได้เข้าคุณสมบัติดันไปขอลงทะเบียนกับเขาด้วย

ทั้งหมดนี้คือธาตุแท้ของคน ทั้งคนที่พร้อมจะช่วยคุณทุกทาง คนที่คิดถึงคนอื่นและคนรอบข้าง คนที่พยายามจะช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุดเพื่อให้ความช่วยเหลือไปถึงคนที่ไม่พร้อม คนที่เห็นแก่ตัวขอแค่ฉันรอดคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง หรือแม้แต่ คนที่พร้อมจะตำหนิในทุกเรื่องแต่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย คนเหล่านี้จะปรากฎตัวให้เราเห็นเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในรูปแบบคนที่คุณไม่รู้จัก คนที่คุณเคยรู้จัก หรือเคยช่วยเขามาก่อน คนที่ชอบบอกว่าเขาเป็นเพื่อนคุณ หรือแม้แต่คนที่ชอบมานับความเป็นญาติกับคุณ

เมื่อเจอคนเหล่านี้ ไม่ต้องเกลียด หรือโกรธ แต่จงเรียนรู้ในสิ่งที่พวกเขาทำ เพื่อที่เราจะได้ไม่เป็นอย่างที่เขาเป็น แม้จะมีคนชอบพูดว่า “คนไทยลืมง่าย” แต่สังคมไทยก็แคบนิดเดียวแค่ สามช่วงต่อ ใครทำอะไรไว้ก็สืบค้นได้หมด เมื่อถึงเวลานั้นคนเหล่านี้จะได้รับบทเรียนแสนแพงที่พวกเขาคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ