Phantom Vision เจเนอเรชั่น 2 ได้เปิดตัวออกมาเมื่ออาทิตย์ก่อน เห็นครั้งแรกก็ประทับใจมาก เนื่องจากโทนสีนั้นคล้ายคลึงกับรองเท้าสายคอลโทรลอย่าง CTR360 ซึ่งเป็นรองเท้ายอดนิยมในอดีต
ถ้าจำไม่ผิด สมัยตอนที่ CTR360 เปิดตัวครั้งแรก เชส ฟาเบรกาส ใส่ลงสนามแล้วสามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 4 ลูกในเกมเดียวทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ขึ้นมาทันที
พอมาถึงยุคนี้คงต้องบอกว่าเป็นยุคของ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งผลงานจากการใส่ Phantom Vision รุ่นแรกลงสนามก็เข้าขั้นระดับโลก เรียกว่าเจ้าพ่อแอสซิสต์ก็ย่อมได้
ซึ่งในช่วงของการออกแบบรุ่น 2 เควิน เดอ บรอยน์ ก็ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมในการออกแบบ โดยใช้ข้อมูลจากการใช้งานจริง จึงทำให้รุ่น 2 มีสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้นทีเดียว
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ แถบสัมผัสบอล ที่รุ่น 1 นั้นมีแต่บริเวณข้างเท้าด้านใน พอมาในรุ่น 2 แถบสัมผัสบอลได้ขยายอาณาเขตไปทั่ว ทั้งข้างเท้าด้านใน และข้างเท้าด้านนอก
ทำให้การสัมผัสบอลนั้นแม่นยำทุกส่วนของรองเท้า ไม่ว่าจะเป็นการจับบอล การส่งบอล การเลี้ยงบอล และการยิงบอล ก็ทำได้อย่างครบถ้วน
เทคโนโลยี Ghost Lace หรือการซ่อนเชือก ยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่ส่วนเรื่องของสปีดนั้นได้พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว
ก็น่าสนใจทีเดียวสำหรับนักเตะในตำแหน่งกองกลางที่จะนำ Nike Phantom VisionII ใส่ลงสนามไปบัญชาเกมหรือการครอสบอลอย่างแม่นยำเหมือนที่ เควิน เดอ บรอยน์ ทำบ่อยๆ ก็ช่วยให้เกมที่ตันๆ นั้นแตกต่างขึ้นมาได้ทันที
รุ่นนี้ราคาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก วางจำหน่ายแล้วทั้งตัวท็อป รองท็อป และรองบ๊วย รวมทั้งยังมีรองเท้าฟุตซอล ที่ใช้เทคโนโลยีของรองเท้าวิ่งอย่าง React มาพัฒนาอีกด้วย
ถ้าใครสนใจก็ชมรูปที่ด้านล่างก่อนได้เลย สำหรับอาทิตย์นี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
