ธรรมชาติ กับการรักษาสมดุลระหว่างสิ่งมีชีวิต

สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ต่างดำรงอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยกันตามธรรมชาติ เพื่อรักษาสมดุลของการควบคุมประชากร ซึ่งมีทั้งผู้ล่า และผู้ถูกล่า ซึ่งหากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือสัตว์จำพวกหนึ่งถูกลดจำนวนลง จะมีสัตว์บางชนิดที่เพิ่มจำนวนขึ้นจนธรรมชาติเสียสมดุลเป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้

ดังนั้นไม่ว่าสัตว์ชนิดใดก็ล้วนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันหลากหลายกิจกรรมของมนุษย์นั้นส่งผลรบกวรสมดุลทางธรรมชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยมีผลกระทบแบบ Butterfly effect หรือ ผีเสื้อขยับปีก การกระทำที่เป็นตัวแปรเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบเป็นทอด ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ได้ เช่น

จำนวนเต่าทะเลกับแมงกะพรุน

โดยปกติแล้วเต่าทะเลมักจะกินแมงกระพรุนเป็นอาหารด้วย ซึ่งสามารถควบคุมประชากรกรของแมงกะพรุนไม่ให้มีมากเกินไปได้ในธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันปัญหาขยะในทะเลนั้นยากที่จะรักษา มีถุงพลาสติกจำนวนมากลอยเคว้งในทะเล ซึ่งเมื่อเต่าทะเลผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เห็นอาจจะคิดว่าเป็นแมงกะพรุนจึงกินพลาสติกเหล่านั้นเข้าไป ส่งผลให้จำนวนเต่าทะเลลดลงได้

พะยูนกับหญ้าทะเล

หญ้าทะเลนับว่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก เพราะเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลได้อย่างดีทั้งอาหารและผลิตออกซิเจนให้แก่สัตว์น้ำ อีกทั้งยังเป็นแหล่งวางไขาของสัตว์ทะเลอีกด้วย ซึ่งพะยูนที่โตเต็มวัยนั้นจะกินหญ้าทะเลเป็นอาหาร ซึ่งลักษณะการกินนั้นจะทำให้เกิดการพรวนดิน อีกทั้งมูลของพยูนนั้นจะมีเมล็ดของหญ้าทะเลปะปนอยู่ด้วย จึงเป็นทั้งปุ๋ยและแหล่งกำเนิดชั้นดีของหญ้าทะเล แต่ทว่าปัจจุบันจำนวนของพะยูนนั้นลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลต่อหญ้าทะเลด้วย

แมวและนก

แมวทุกชนิดนั้นล้วนมีสัญชาติญาณนักล่าอยู่ในตัว ไม่เว้นแม้แต่แมวบ้านที่เราเลี้ยงกัน ซึ่งรู้ไหมว่าแมวมีผลอย่างมากกับจำนวนประชากรของนก ซึ่งตอนนี้พบว่าในหนึ่งวันจำนวนนกที่ถูกแมวล่ามีจำนวนนับล้านตัวซึ่งเป็นจำนวนที่น่าตกใจไม่ใช่น้อย และแน่นอนน้ำมือมนุษย์ก็เปื้อนเลือดไปด้วยเพราะการเลี้ยงแมวแบบส่ง ๆ โดยเฉพาะการนำมาเลี้ยงและเอาไปปล่อยเป็นแมวจรในภายหลัง

สัตว์ละแวกบ้านกับการควบคุมจำนวนแมลง

แมลงที่คอยรบกวนเราตามบ้านเรือนช่างเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ ซึ่งธรรมชาติได้สร้างผู้พิทักที่คอยควบคุมจำนวนแมลงให้คงที่และไม่มากไปกว่านี้มาหลายชนิด เช่น ค้างคาว ตุ๊กแกและจิ้งจก คางคก ซึ่งสัตว์เหล่านี้เป็นที่รังเกียจและกลัวสำหรับหลาย ๆ คน ซึ่งมีวิธีไล่และหลีกเลี่ยงอยู่หลายวิธี แต่หาเรามุ่งไปที่การล่าเพื่อลดจำนวนของสัตว์เหล่านี้ ก็จงรู้ไว้เลยว่าเราจะต้องรับมือกับแมลงเป็นลำดับต่อไป

ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ความสมดุลขึ้นมาเพื่อรักษาจำนวนของสรรพสิ่งให้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว ติดปัญหาเดียวคือมนุษย์ที่มักรุนรานและก้าวก่ายและกำลังทำลายห่วงโซ่ของระบบนิเวศลงอย่างช้า ๆ ทั้งการล่าโดยตรง หรือทางอ้อมอย่างการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ส่งผลระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อย่างร้ายแรง และในอีกไม่นานผลกระทบที่มนุษย์ก่อขึ้นจะวนกลับมาทำร้ายพวกเขาเองในที่สุด