สวัสดีวันหยุดครับทุกคน พบกันเช่นเคยกับคอลัมน์เดินเที่ยวไปกับสถานที่สวยงามในกรุงเทพฯ โดยผมกับน้องจุลินทร์รับหน้าที่ออกเดินเที่ยวเก็บภาพมาให้ทุกท่านได้เที่ยวไปกับผมผ่านสายตา เพื่อความอิ่มเอมและเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจของท่านต่อไป
เนื่องจากมีการเปิดใช้ รถไฟฟ้ามหานคร 5 สถานีใหม่ และเคลมว่าเป็น 5 สถานีที่สวยแล้วใกล้สถานที่เดินเที่ยวหลายแห่ง งั้นก็เอาล่ะผมขอลองไปชมให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งแล้วกัน ซึ่งสถานีที่เปิดใหม่นี้ประกอบไปด้วย สถานีวัดมังกร สถานีสามยอด สถานีสนามไชย สถานีอิสรภาพ และสถานีท่าพระ ที่สำคัญคือในช่วงนี้เป็นช่วงเพิ่งเปิดใช้บริการ มีโปรโมชั่นนั่งรถไฟฟ้าฟรีที่ 4 สถานีนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. เป็นเวลาถึง 2 เดือน
มาเริ่มกันในที่แรก สถานีวัดมังกร ซึ่งการเดินทางมายังสายนี้ก็ไม่ยากเพียงแค่ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินมาจนถึงที่สถานีหัวลำโพง จากนั้นก็เปลี่ยนขบวนเพื่อมายังสถานีใหม่แห่งนี้
สถานีแห่งนี้อยู่ใกล้กับ วัดมังกรกมลาวาส ซึ่งเป็นย่านที่ผสมผสานสไตล์จีนและยุโรปอีกทั้งอยู่ใกล้ย่านเยาวราชอีกด้วย เมื่อเดินออกมาจากขบวนรถคุณจะสามารถสัมผัสถึงความเป็นจีนได้ทันที ทั้งดีเทลการตกแต่งภายในสถานีที่ใช้ลวดลายและจิตรกรรมแบบสีแดงเป็นหลัก และที่ขาดไม่ได้เลยคือ มังกร
หลังการชื่นชมการตกแต่งภายในของสถานี รอจังหวะกดชัตเตอร์สักพักใหญ่ เพราะคนมาเที่ยวกันค่อนข้างเยอะพอสมควร ผมก็เดินออกมาภายนอกสถานีและตรงไปทางวัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ วัดชื่อดังที่คนนิยมมาสักการะและขอพร
ที่วัดเล่งเน่ยยี่แห่งนี้ มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปและไหว้พระกันอย่างเนืองแน่น
หลังจากอิ่มเอมกับภาพบรรยากาศในละแวกนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นที่ชุกชุมของผู้คนมาก ๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่พาคนเฒ่าคนแก่ผู้ใหญ่มาเที่ยวมากินของอร่อยในย่านนี้
และไม่รอช้าครับ เนื่องจากวันนี้ต้องเดินทางถึง 5 สถานีตามที่วางแผนไว้ ผมกลับไปที่ MRT เพื่อเดินทางไปสถานีสามยอดเป็นลำดับต่อไปทันที (เดี๋ยวจะหมดเวลานั่งฟรี)
บรรยากาศอาคารด้านนอกสถานี กับคนที่เนืองแน่นหามุมถ่ายรูปกันเต็มพื้นที่ไปหมด
แหล่งน่าเที่ยวใกล้ ๆ กับสถานีนี้ในระยะที่เดินได้ชิลล์ ๆ ก็จะมี The Old Siam ร้าน ออน ล๊อก หยุ่น แต่เป้าหมายที่แท้จริงของผมในครั้งนี้คือการเดินลัดเลาะริมถนนไปเรื่อย ๆ ผ่านเสาชิงช้า และไปจบที่ร้านบ้านขนมปังขิง
เดินมาพ่อได้เหงื่อแบบซึม ๆ ผ่านวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารและเสาชิงช้า เกิดเป็นจังหวะจวบเหมาะพอดีในการนั่งพักในมุมสบาย ๆ ที่ร้านคาเฟ่สักร้านใกล้ ๆ (แผนเราช่างแยบยล)
มาถึงบ้านขนมปังขิง คนค่อนข้างเนืองแน่นอยู่พอสมควรภายในร้าน
แต่เอาล่ะ แวะนั่งพักดื่มน้ำชิมเค้กสักหน่อยแล้วกัน
หลังจากการนั่งพักดื่มน้ำชิมเค้กจนชื่นใจ ซึ่งไม่ใช่การพักจากการเดินมาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการฮึบเพื่อเผื่อพลังในการเดินกลับไป MRT ด้วย(ฮา) เรียบร้อยแล้วผมก็เดินกลับไปสถานีสามยอด เพื่อไปยังจุดหมายต่อไป
ณ สถานีสามไชยแห่งนี้ ได้รับการตกแต่งภายในที่สวยงามไม่แพ้วัดมังกรเลยทีเดียว ผู้คนแห่แหนถ่ายภาพบรรยากาศกันเนืองแน่นจริง ๆ
นอกจากความตะลึงจากบรรยากาศภายในสถานีแล้ว เมื่อขึ้นมาด้านบนและออกสู่ด้านนอกของสถานียังมีความตะลึงอื่น ๆ อยู่อีกด้วย และนับว่าผมเลือกทางออกได้ถูกทางจริง ๆ เพราะเลือกออกทางมิวเซียมสยาม ที่บันไดเลื่อนพาขึ้นมาถึงภายในรั้วของมิวเซียมสยามเลย
หลายคนอาจจะ งง ว่าบันไดเลื่อนที่โผล่ขึ้นมากลางแจ้งโดยไม่มีหลังคาบังแบบนี้ ถ้าฝนตกจะไม่พังเหรอ ไม่พังครับเพราะผมได้ข้อมูลมาว่าบันไดเลื่อนตัวนี้เป็นรุ่นพิเศษโดนฝนได้มีความทนทานสูง และใช่ครับ ราคาก็สูงเช่นกัน
มิวเซียมสยาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปกันเนื่องด้วยบรรยากาศที่เหมาะเหม็ง หลังจากขึ้นมากินบรรยากาศในเวลากลางวันที่แดดทำมุมฉากกับหัวแบบนี้ การได้แวะนั่งกินข้าวเที่ยงสักมื้อก็คงดี เมื่อคิดอย่างนั้นผมจึงเดินหาร้านอาการและจัดการสั่งอาหารมานั่งกินนั่งพัก ก่อนที่จะเดินทางต่อกัน
หลังจากอิ่มเอมกับมื้อกลางวันเรียบร้อย จุดหมายของผมในวันนี้เหลืออีก 2 สถานี้ให้สำรวจเพิ่ม ดังนั้นเมื่อมีแรงกลับมาก็ออกเดินทางต่อเลยแล้วกันครับ จุดหมายต่อไป สถานีอิสรภาพ
ภายในของสถานีอิสรภาพ มีการตกแต่งโดยรวมไม่ต่างกันมากจากสถานีอื่น ๆ แต่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เด่นชัดของสถานีนี้คือ การประดับด้วยไฟรูปหงษ์ ดึงดูให้นักท่องเที่ยวต้องต่อคิวถ่ายรูปกันเป็นพรวนเลยทีเดียว และหลังจากออกมาภายนอกสถานีและสำรวจแหล่งเดินเล่นใกล้เคียงนั้นเหมือนจะน้อยไปหน่อย เพราะถึงแม้จะใกล้กับศิริราชหรือตลาดสำเพ็ง แต่ถือว่าเป็นการเดินทางที่ใช้เวลาเพราะระยะทางค่อนข้างห่างพอสมควรเลย
เมื่อเห็นดังนั้น ก็เป็นอันว่ากลับเข้ารถไฟฟ้าและไปสำรวจสถานีท่าพระ สถานีจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเที่ยวในวันนี้
ในส่วนของสถานีท่าพระ จุดหมายปลายทางสุดท้ายของผมในวันนี้ เป็นสถานียกระดับที่ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยลักษณะจากการเดินทางมาจากสถานีอิสรภาพ จะเป็นการวิ่งรถจากใต้ดินขึ้นมาอยู่เหนือพื้นดิน ก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจดี บรรยากาศของสถานีนั้นใหญ่โตโอ่อ่าและโล่งมีลมผ่านคล้ายกับแอร์พอร์ตลิ้งสถานีใหญ่ และตามข้อมูลคือสถานที่เดินเล่นใกล้ ๆ ก็ไม่มีเลย
การเดินทางนั่งรถไฟฟ้าฟรี 5 สถานีของผมจึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้สำหรับวันนี้ สรุปแล้วคือบรรยากาศดีและสนุกกับการเดินเที่ยวและหาของกิน ถึงแม้ช่วงนี้คนจะเยอะแต่ก็ไม่เยอะจนเกินไปจนทำให้เสียบรรยากาศ เอาเป็นว่าอยากให้ทุกคนได้มาลองเที่ยวเส้นทางนี้กันและสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองสักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน รีบมากันล่ะ อย่าลืมว่าเดินทางฟรี 5 สถานีถึงวันที่ 28 กันยายนนี้เท่านั้นนะ
สำหรับวันนี้ ตัวผมและน้องจุลินทร์ขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ
