ความขัดแย้งทางศาสนา สาเหตุความรุนแรงและการสูญเสีย

รูปแบบการดำเนินชีวิตหรือวิธีคิดของผู้คนที่แตกต่างกัน สามารถเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศาสนาและความเชื่อ เพราะมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการปัจจัยมากมายในการดำรงชีวิต และหนึ่งในนั้นคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อยึดถือเป็นหลักดำเนินชีวิต เกิดเป็นศาสนาและลัทธิต่าง ๆ

จากความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ถิ่นที่อยู่ และการดำเนินชีวิต โลกใบนี้ของเราจึงมีกันอยู่หลากหลายศาสนา ซึ่งโดยแก่นหลักแล้วทุกศาสนามีคำสอนที่คล้องกันคือการสอนให้ทุกคนเป็นคนดี และเนื่องด้วยการกระจายตัวของผู้คนทั่วทุกมุมโลกจากการที่มีผู้ที่นับถือศาสนาที่แตกต่างกันอาศัยปะปนในพื้นที่เดียวกัน

และจากความคิดความเชื่อบางประการที่ไม่สอดคล้อง กลายเป็นชนวนที่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้ เพราะเป็นเรื่องบอบบางมีผลต่อจิตใจ บ่อยครั้งที่ความขัดแย้งนั้นบานปลายจนทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงตามมา

ด้วยคำว่า ความศรัทธา ที่หลายคนยึดมั่นทำให้สามารถทำทุกวิถีทางเพื่อบ่งบอกว่าความคิดของตนนั้นถูกต้องที่สุด แม้จะเกิดความรุนแรงหรือแม้กระทั่งเสียเลือดเสียเนื้อก็ตาม

ในปัจจุบันสถานการณ์ความรุนแรงอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางศาสนากระจายตัวและเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของโลก

ความศรัทธาที่มอมเมาจนมืดมัวส่งผลให้คนบางกลุ่ม ลงมือกระทำการบางอย่างที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม เกิดเป็นลิทธิความรุนแรงโดยใช้ศาสนามาอ้างเพื่อรองรับการกระทำที่ทุกคนรับไม่ได้ทั้งหลาย

ยกตัวอย่าง เช่น ความขัดแย้งที่ร้ายแรงส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์ล้มตายเป็นจำนวนมากในอดีต ของข้อพิพาทระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมในประเทศอินเดียกับปากีสถาน ผลที่เกิดคือการเข่นฆ่าสังหารคนที่นับถือศาสนาแตกต่างจากพวกตน หรือบังคับขู่เขฌนให้เปลี่ยนการนับถือศาสนาอย่างไร้ทางออก ซึ่งทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

กับอีกหนึ่งสงครามที่เรารู้จักชื่อกันดีคือ สงครามครูเสด ซึ่งเป็นสงครามที่เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งของศาสนาคริสต์และอิสลาม ในอิสราเอลกับปาเลสไตน์เพื่อหวังครอบครองนครเยรูซาเล็มที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลให้เกิดการต่อสู้ยาวนานต่อเนื่องถึงสองศตวรรษ

กับในอีกรูปแบบหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดความสูญเสียในหลายระดับจากหลายเหตุการณ์คือการ ก่อการร้าย ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นที่น่าสลดอย่างมาก ทั้งการลอบวางระเบิดในพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก การกราดยิง และการก่อวินาศกรรมในหลายรูปแบบ จากที่มาของกลุ่มหัวรุนแรงโดยอ้างชื่อพระเจ้าของตนเพื่อความเห็นชอบในการลงมือ

ทั้งนี้ความรุนแรงของการก่อการร้ายนั้นเป็นเรื่องน่ากลัว หลายประเทศมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดแต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด เนื่องจากบางเหตุการณ์ก็อาจเกิดขึ้นจากคนในชนชาติเองที่ซึมซับคำสอนและความเชื่อผิด ๆ มาจากกลุ่มหัวรุนแรง

เช่น ในการลอบวางระเบิดงานบอสตันมาราธอน สหรัฐอเมริกา ที่เขย่าขวัญและส่งผลกระทบด้านจิตใจต่อประชากรทั้งโลก

โดยหากพูดถึงทางออกของความรุนแรงแล้วนั้น แทบจะไม่เห็นความเป็นไปได้ของความสงบสุขที่แท้จริง อันเนื่องมาจากศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มก่อการร้าย และทุกเหตุการณ์ล้วนเป็นเรื่องที่ยากจะหยั่งรู้ ทำให้ทุกที่ล้วนเสี่ยงต่อการเกิดโศกนาฏกรรม

สิ่งที่เราทำได้และควรทำอย่างยิ่งคือการระมัดระวังตัวเลี่ยงการตกเป็นผู้เคราะห์ร้าย รวมไปถึงสเกลใหญ่ ๆ อย่างการปลูกฝังเยาวชนในด้านผลเสียของความรุนแรงเพื่อความตระหนักรู้ ..เพราะความขัดแย้งทางศาสนาทำให้ทุกที่ล้วนไม่ปลอดภัย