นักกีฬาวัย 40 ปี หากไม่ใช่กีฬากอล์ฟ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงบั้นปลาย หรือบางคนก็ประกาศเลิกเล่น แต่กีฬาที่ได้ชื่อว่าเร็วและเสี่ยงตายที่สุดชนิดหนึ่งของโลกอย่างโมโตจีพี ในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีนักบิดอายุ 40 ปีลงแข่งขัน
ไม่เพียงเท่านั้นครับ นักกีฬาที่จะอายุครบ 40 ปีในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ยังวางเป้าที่จะคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุด รวมถึงยังไม่หมดหวังกับการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 10 อีกด้วย เขาคนนั้นไม่ใช่ใคร “เดอะ ด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ นั่นเอง
รอสซี่เข้าสู่วงการจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น 125 ซีซี ตั้งแต่อายุ 17 ปี ในฤดูกาล 1996 นั่นเท่ากับว่าเขาโลดแล่นอยู่ในวงการความเร็วสองล้อทางเรียบระดับโลกมาแล้ว 23 ปี หรือจะพูดให้เห็นภาพคือ ในวันที่รอสซี่ลงแข่งกรังด์ปรีซ์ครั้งแรก นักบิดซึ่งเป็นคู่แข่งของเขาในโมโตจีพีตอนนี้หลายคน ยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป
การที่คนอายุ 40 สามารถขับเคี่ยวในสนามแข่งกับเด็กรุ่นลูก โดยเฉพาะโมโตจีพีที่ต้องใช้สมรรถภาพร่างกายค่อนข้างมากต้องบอกเลยครับว่าไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเมื่อวันเปิดตัวรถแข่งใหม่ของยามาฮ่าช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รอสซี่ยอมรับเลยว่ารู้สึกแก่ไม่น้อย
รอสซี่บอกครับว่า สภาพร่างกายต่างกับตอนอายุ 25 อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องสายตา และการฟื้นฟูสภาพร่างกาย แต่นั่นไม่ได้ถือเป็นอุปสรรค เขาบอกต่อว่า สิ่งที่เขาต้องทำคือการฝึกซ้อมที่จะต้องเป็นงานหนักเพิ่มขึ้น ประสบการณ์อย่างเดียวไม่สามารถช่วยให้เขาแข่งขันได้จนถึงอายุขนาดนี้
มาถึงตรงนี้ผมคิดว่าเป็นแนวคิดและตัวอย่างที่ดีสำหรับนักกีฬารวมถึงการทำงานในสายอื่นๆด้วย คือไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์โชกโชนขนาดไหน แต่หากหยุดนิ่งคุณก็จะโดนเด็กรุ่นหลังเดินแซงได้ง่ายๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่วิถีของ “เดอะ ด็อกเตอร์”
ปีนี้ใครที่ติดตามเชียร์รอสซี่ อาจจะแปลกตาไปเล็กน้อยนะครับ เมื่อโทนสีรถของทีมโรงงานยามาฮ่า จะปรับไปในโทน “น้ำเงิน-ดำ” มากขึ้น ซึ่งก็ประจวบเหมาะเสียเหลือเกินว่าเป็นสีประจำทีม “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ทีมโปรดของเขาพอดิบพอดี
แม้จะเป็นงานหนักที่รอสซี่จะกลับไปยืนแป้นโพเดียมสูงสุดได้อีกครั้ง แต่ผมเชื่อว่าในวัน 40 ปีแบบนี้ จะมีคนหันมาปันใจเชียร์รอสซี่เพิ่มขึ้นอีกครั้งแน่นอน แต่ขออย่างเดียว อย่าให้ผลงานของยามาฮ่า เป็นแบบ “อินเตอร์ มิลาน” ฤดูกาลนี้ก็แล้วกันครับ (ฮา)
