“เมสซี่ เจ” เปิดตัวซัปโปโรสวมเบอร์ 18


ชนาธิป สรงกระสินธ์ เปิดตัวกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อย่างเป็นทางการ ด้วยการใส่หมายเลข 18 ที่เป็นเบอร์เดียวกับ “กิเลนผยอง”และทีมชาติไทย โดยเจ้าตัวขอให้แฟนบอลเรียกชื่อ เจ หรือ ชนาธิป ไม่ต้องถึงกับ เมสซี่ เนื่องจากเป็นชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้มากกว่า ซึ่งจะขอพัฒนาตัวเองให้ได้ เพื่อช่วยยกระดับให้กับทีมใหม่

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่ห่างกับไทย 2 ชั่วโมง) เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ ภายในชิโรอิโคอิบิโตะ ช็อกโกแลต ซึ่งเป็นโรงงานทำช็อกโกแลตชื่อดังของซัปโปโร ได้มีการเปิดตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เซ็นสัญญายืมตัว 1 ปีครึ่ง จาก เอสซีจี เมืองทองฯ มาอยู่กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ โดยสวมเสื้อหมายเลข 18 ซึ่งเป็นเบอร์เก่งของเขาในนาม “กิเลยผยอง”และทีมชาติไทย แทนที่ ทาคาฮิโร่ มาซุคาวะ ปราการหลังจอมเก๋าวัย 37 ปี ที่เป็นเจ้าของเบอร์นี้

ซึ่งงานแถลงข่าวเปิดตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก โยชิคาซุ โนโนมิระ ประธานสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่เคยเป็นอดีตนักเตะของทีมอีกด้วย พร้อมด้วย คุณวิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ โดยมีสื่อมวลชนของญี่ปุ่นมาทำข่าวกันอย่างมากมาย

คุณวิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ กล่าวว่า “เจ ลีก เป็นลีกที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ในเอเชีย การมาของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ครั้งนี้ จะเป็นการแรงบันดาลใจของเยาวชนในอนาคต รวมทั้งเป็นประตูของนักเตะไทยที่จะมาเล่นที่ญี่ปุ่นอีกด้วย”

ปธ.ซัปโปโรเชื่อตัวเล็กแต่บรรเลงมันส์แน่

โยชิคาซุ โนโนมิระ ประธานสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่เคยเป็นอดีตนักเตะของทีม ได้เปิดใจถึงการมาของ “เมสซี่เจ”ว่า “การมาของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เราเชื่อว่าจะเป็นอีกแรงสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับญี่ปุ่น”

“อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ทำการตลาดกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อย่างที่ใครคาดคิดกัน เพราะครั้งแรกที่ผมได้ดูเขาจากคลิปวิดิโอนั้น ตกใจเหมือนกันที่เห็นนักเตะตัวเล็ก แต่การเคลื่อนที่ของเขากลับทำได้อย่างรวดเร็ว มีความแข็งแกร่งของร่างกาย”

“นอกจากนี้ผมยังได้เดินทางไปดูด้วยตัวเอง ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทีมชาติไทย เสมอกับ ออสเตรเลีย ไป 2-2 การได้ชม ชนาธิป สรงกระสินธ์ เล่นในวันนั้น ทำให้ผมตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเขามาเล่นกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร

“เจ” ทักทายภาษาเจแปนให้เรียกชื่อเล่น

ด้าน “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลเมกเกอร์ของ เอสซีจี เมืองทองฯ ที่เตรียมย้ายมาเล่นให้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ เริ่มต้นทักทายสื่อมวลชนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “ฮาจิเมะมาชิเตะวาตาชิวะ เจเดส โดโซะ โยโรชิคุ โอเนไกชิมัส (สวัสดีครับผม เจ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ)”

“การที่ผมมาที่นี่ผมมาเพื่อที่จะพัฒนาตัวเอง และต้องการช่วยทีมให้ได้มากที่สุด ผมเชื่อมั่นว่าผมจะสามารถปรับตัวได้อย่างแน่นอน เพราะขนาดคนที่นี่ยังทนกับความหนาวได้ แล้วทำไมผมจะไม่สามารถทนกับความหนาวของเมืองซัปโปโรได้”

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นได้ถามว่าในเมืองไทยเรียกคุณว่า “เมสซี่” แล้วจะให้คนที่นี่เรียกว่าอะไร ดาวเตะหมายเลข 18 บอกว่า “จริงๆแล้วต้องขอขอบคุณที่คนเรียกว่าเมสซี่ แต่ผมคงจะเทียบกับเขาไม่ได้ เนื่องจากเขาเป็นนักเตะระดับโลก ผมเองยังต้องพัฒนาอีกเยอะ”

“ซึ่งผมเองอยากจะให้เรียกผมว่า เจ เฉยๆก็ได้ เนื่องจากเป็นชื่อเล่นที่คุณแม่ของผมตั้งให้ เหมือนกับว่าเป็นพรมลิขิตที่ทำให้ผมได้มาเล่นใน เจ ลีก อีกด้วย หรือจะเป็นชื่อจริงอย่าง ชนาธิป ก็ได้”

เชื่อชื่อย่อทีมลิขิตตัวเอง, ขอโฟกัสกับกิเลนก่อน

นอกจากนี้ดาวเตะของน้องใหม่ในเจ ลีก ปี 2017 ยังได้พูดถึงชื่อย่อของสโมสรว่า “ชื่อ คอนซาโดล ซัปโปโร นั้น มีชื่อว่า CS ซึ่งเหมือนกับของผมที่ใช้ชื่อย่อ ชนาธิป สรกงระสินธ์ ว่า CS เหมือนกัน นี่จึงเป็นพรหมลิติไม่น้อยที่ทำให้ผมได้มาอยู่กับสโมสรแห่งนี้ในญี่ปุ่น”
“ทว่าผมยังมีภารกิจสำคัญอย่างมาก ที่จะต้องกลับไปช่วย เอสซีจี เมืองทองฯ เนื่องจากมีเกมลีก,, ฟุตบอลถ้วยและเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017 รอบแบ่งกลุ่ม รออยู่ ฉะนั้นผมจะทำให้เต็มที่ ก่อนที่จะกลับมาช่วย คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเลกสอง”

สำหรับกำหนดการณ์ของ “เมสซี่เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ วันที่ 11 ม.ค.นี้ จะเดินทางไปเยี่ยมชมสนามซัปโปโร โดม ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในการจัดฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน โดยใช้ไป 3 นัดของรอบแรก ประกอบด้วย วันที่ 1 มิ.ย.2002 เยอรมัน ถล่ม ซาอุดิอาระเบีย 8-0 (กลุ่ม อี), วันที่ 3 มิ.ย.2002 อิตาลี ชนะ เอกวาดอร์ 2-0 (กลุ่ม อี) และวันที่ 7 มิ.ย.2002 อาร์เจนติน่า แพ้ อังกฤษ 0-1 (กลุ่ม เอฟ) โดยเตรียมใช้เป็นสังเวียนลูกหนังใน โอลิมปิก 2020 ซะด้วย