คุยกับ “น้องต่อ-สิทธิชัย รักพินิจ” เจ้าของเพจเด็กเซราะกราว

วันนี้ Tonkit360 จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “น้องต่อ-สิทธิชัย รักพินิจ” อายุ 20 ปี เจ้าเพจเฟซบุ๊ก Deksorkrao เด็กเซราะกราว ที่ปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 6 แสนคน ตอนนี้น้องต่อกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ภาควิชานิเทศศาสตร์ โดยในทีมเด็กเซราะกราว มีสมาชิกตัวน้อยอีก 4 คน ได้แก่ น้องกุ้งเต้น น้องมอมแมม น้องส้ม และน้องกวาง

ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ชั่วโมงนี้พวกเขาทั้ง 5 คน ได้กลายเป็นเด็กที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในการทำคลิป Parody คลิปเลียนแบบเอ็มวีเพลงของเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในประเทศเกาหลีใต้อย่าง Blackpink ไปแล้วเรียบร้อย ด้วยความสามารถที่เกินตัว ทั้งอินเนอร์การเต้น การแสดงสีหน้า รวมถึงฝีมือการกำกับ ความคิดสร้างสรรค์ มุมกล้องในการถ่ายทำ เทคนิคที่ใช้ในการตัดต่อ ที่ต้องยอมรับเลยว่าขั้นเทพ และเด็กไทยเราเองก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ

ฟังสัมภาษณ์ในรูปแบบ Podcast

จุดเริ่มต้นของการทำคลิปวีดีโอ Parody

น้องต่อ : จริงๆ เริ่มจากการอัดคลิปวีดีโอเล่นๆ แล้วลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวครับ ตอนแรกยังไม่ได้สร้างเป็นเพจจริงจัง แล้วทีนี้คลิปวีดีโอที่ผมลง ก็มีเพจอื่นๆ ที่เขามีคนติดตามเยอะอยู่แล้วเอาไปลง เอาไปแชร์ต่ออีกที พอผมเห็นว่าก็มีคนชื่นชอบคลิปที่เราทำเยอะเหมือนกันนะ เลยลองทำต่อมาอีกเรื่อยๆ จากนั้นก็มีคนมาติดตามเฟซบุ๊กผมมากขึ้น ก็เลยคิดว่าไปเปิดเป็นเพจเด็กเซราะกราวดีกว่า จนถึงตอนนี้ก็มีผู้ติดตามในเพจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ

ที่มาและความหมายของคำว่าเด็กเซราะกราว

น้องต่อ : เพราะว่าคำนี้ในช่วงนั้นมันมีกระแสอยู่แล้วด้วย ส่วนความหมายของ “เด็กเซราะกราว” ก็คือเป็นคำพูดในภาษาเขมรที่แปลว่า “เด็กบ้านนอก” และผมว่ามันก็ตรงกับตัวน้องๆ ที่เป็นเด็กต่างจังหวัด คือเอาจริงๆ ไม่ได้คิดอะไรเยอะครับ แค่คิดว่าความหมายมันเหมาะและมีกระแสอยู่ในช่วงนั้นครับ

ในทีมเด็กเซราะกราวมีใครบ้าง

น้องต่อ : ในทีมก็จะมี “น้องกุ้งเต้น” อายุ 11 ปี เป็นน้องสาวแท้ๆ ของผม คนที่สองก็คือ “น้องมอมแมม” อายุ 10 ปี น้องคนนี้เป็นหลานที่อยู่ข้างบ้านครับ และก็เป็นคนแรกที่ผมเลือกให้มาถ่ายคลิป ถ้าใครติดตามคลิปของผมตั้งแต่แรกๆ จะเห็นได้เลยว่าน้องมอมแมมจะมีคลิปฉายเดี่ยวบ่อย คนที่สามคือ “น้องส้ม” อายุ 9 ปี น้องคนนี้ก็เป็นหลานข้างบ้านเหมือนกันครับ ซึ่งเข้ามาเป็นคนสุดท้าย เริ่มตั้งแต่คลิป Parody Blackpink Playing With Fire คนที่สี่ก็คือ “น้องกวาง” อายุ 8 ปี เป็นหลานของผมเอง ที่เลือกมาร่วมถ่ายคลิปด้วย ก็เพราะว่าเป็นหลานที่อยู่ในบ้านเดียวกันครับ

น้องส้ม-น้องกุ้งเต้น-น้องมอมแมม-น้องกวาง (ภาพจาก FB : Deksorkrao เด็กเซราะกราว)

ใครเป็นคนสอนเต้น ในการถ่ายทำแต่ละครั้งมีการพูดคุยให้เข้าใจกันอย่างไร

น้องต่อ : ผมเป็นคนสอนน้องๆ เต้นเองครับ เพราะว่าส่วนตัวชอบ Blackpink อยู่แล้ว และปกติผมก็เต้นโคฟเวอร์ด้วยครับ อาจจะมีบ้างที่แกะท่าเต้นของวงอื่นๆ ที่ตอนนั้นเพลงเขาเป็นกระแสอยู่ มาสอนน้องๆ ให้เต้นตามได้ ในการถ่ายทำแต่ละครั้งผมก็จะมีการพูดคุยกับน้องๆ ซึ่งทั้ง 4 คนก็เข้าใจครับ เพราะว่าเราถ่ายคลิปด้วยกันมาเกิน 1 ปีแล้ว อีกอย่างคือน้องเขาก็โตขึ้นเรื่อยๆ และก็เป็นน้องเป็นหลานของผมเอง เลยคุยเข้าใจกันง่ายครับ

สิ่งของต่างๆ ที่นำมาครีเอทในแต่ละคลิป ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร

น้องต่อ : เรื่องของแรงบันดาลใจ ผมขอบอกตรงๆ ครับว่าไม่ได้คิดอะไรมากมายเลย แค่คิดว่าเราจะหาอะไรมาแทนดี แล้วก็หาของใกล้ตัวมาประยุกต์เอา เป็นของธรรมดาที่หาได้ง่าย แต่ดูแล้วเป็นตัวเราเอง หรือดูแล้วมันคอนทราสต์กับเขา และที่สำคัญคือคิดเผื่อคนดูด้วยว่าคนดูน่าจะชอบ ซึ่งหลังๆ ผมเริ่มนำเอาพวกของท้องถิ่นมาใส่ในคลิป และก็พยายามครีเอทให้มากขึ้นกว่าเดิม ว่าต้องเป็นของที่ไม่สิ้นเปลือง เป็นของที่คนดูดูแล้วขำ แต่อาจจะมีบางอย่างที่เหมือนกับของเขาเป๊ะเลยก็คือปย๊งบง (ชื่อแท่งไฟของ Blackpink) ครับ

ใช้เวลาในการทำคลิปหนึ่งคลิปนานแค่ไหน และอุปกรณ์ที่ใช้มีอะไรบ้าง

น้องต่อ : อย่างคลิปล่าสุด Parody Blackpink DDU-DU DDU-DU ใช้เวลาเฉพาะถ่ายทำก็ 1 เดือนครึ่งแล้ว เพราะว่าเราถ่ายทีละนิดทีละหน่อย ถ้าหากว่ามีเวลาถ่ายทั้งวันเลย ก็อาจจะใช้เวลาไม่นานขนาดนี้ เนื่องจากว่าผมและน้องติดเรียนด้วย เราเลยมีเวลาถ่ายเฉพาะช่วงเย็น และก็เสาร์อาทิตย์บ้างครับ ส่วนขั้นตอนในการตัดต่อนี้ใช้เวลานานกว่าถ่ายทำอีกครับ (ขำ) ด้วยความที่ผมถ่ายและตัดต่อคนเดียวด้วยครับ เลยค่อนข้างจะใช้เวลานานมากสำหรับการทำคลิปหนึ่งคลิป ด้านอุปกรณ์ที่ผมใช้ก็จะมีกล้อง 1 ตัว ขาตั้งกล้อง แล้วก็กิมบอลครับ

เรียนรู้มุมกล้องและเทคนิคการตัดต่อมาจากไหน

น้องต่อ : ตอนแรกผมอาศัยแกะมุมกล้อง จากตัวเอ็มวีหลักของเขาเอาครับ แต่ช่วงหลังผมก็ได้มาเรียนอยู่ในสายนิเทศด้วย ก็เลยได้ความรู้และเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการตัดต่อ การใช้เอฟเฟกต์ในโปรแกรม Premiere Pro มาประยุกต์ใช้ในแต่ละคลิปวีดีโอครับ

อนาคตจะมีวีดีโอคอนเทนท์รูปแบบอื่นมาให้ได้ติดตามกันไหม

น้องต่อ : ในอนาคตมีคิดไว้บ้างครับ เพราะผมก็อยากจะทำวีดีโอคอนเทนท์ในรูปแบบอื่นเหมือนกัน แต่ด้วยตอนนี้ผมและน้องยังติดเรื่องเรียนกันอยู่ ก็เลยยังไม่ได้มีเวลามาทำตรงนี้เต็มที่ แต่ถ้าในอนาคตผมกับน้องมีเวลาว่าง เช่น ในช่วงปิดเทอม เราก็จะคิดครีเอทวีดีโอในรูปแบบอื่น ให้หลากหลายแนวกว่านี้อยู่แล้วครับในความคิดของผม

ความรู้สึกที่เริ่มเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

น้องต่อ : เราเริ่มมาแค่จากในประเทศ แต่ตอนนี้เริ่มมีคนต่างประเทศรับรู้ มีสื่อต่างประเทศเอาไปเขียนข่าว จริงๆ ผมว่ามีคนรู้จักบ้างแค่ในประเทศก็ดีใจมากแล้ว ซึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่าจะดังไปถึงต่างประเทศ ตอนแรกที่ทำคิดว่าคงไม่มีใครมาสนใจหรอก แต่พอเริ่มมีกระแส และประเทศเกาหลีใต้ที่เขาเป็นเจ้าเพลงเองพูดถึง เราก็รู้สึกว่ามันเกินคาดมากๆ ก็มีแอบหวังว่าต้นฉบับเขาอาจจะได้เห็นบ้างรึเปล่านะ ก็ดีใจครับที่มีคนมองเห็นถึงความสามารถของผมและน้อง

สื่อทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจกับคลิป Parody ของเด็กเซราะกราวเป็นจำนวนมาก (ภาพจาก  FB : Deksorkrao เด็กเซราะกราว)

อาชีพที่ใฝ่ฝันคืออะไร

น้องต่อ : ความฝันสูงสุดของผมก็คือ การเป็นผู้กำกับครับ ไม่ว่าจะเป็นทางสายควบคุมการผลิตเอ็มวีเพลง หรือกำกับหนังสั้นหรือภาพยนตร์ก็ได้ครับ ผมชอบหมดเลย แต่ตอนนี้ผมสนใจไปในทางสายเอ็มวีเพลงมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเป็นผู้กำกับเอ็มวีเพลงครับ

ฝากถึงวัยรุ่นไทยที่กำลังมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบ

น้องต่อ : หากใครกำลังมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตัวเองอยากทำไม่เจอ ให้ลองทำอะไรก็ได้ ที่คิดว่าตัวเองชอบมากที่สุดไปก่อน ถ้ามัวแต่รอเวลาให้พร้อม สุดท้ายไม่ได้ลงมือทำสักที ทั้งที่เรามีของอยู่รอบตัวมากมายที่หยิบมาประยุกต์ได้ แม้แต่ตัวผมเองก็ยังเริ่มจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว พูดง่ายๆ ก็คือเอาเท่าที่กำลังเรามี ถ้าได้ลองทำแล้วมันใช่ เราค่อยพัฒนาตัวเองเพิ่มก็ได้ ฉะนั้นทำอะไรได้ทำไปก่อนครับอย่ารอเวลา เดี๋ยวผลตอบรับมันก็จะบอกเราเองว่าใช่หรือไม่ใช่

ช่องทางการติดตาม

น้องต่อ : ขอฝากผลงานของเด็กเซราะกราวนะครับ ช่องทางติดตามของเราก็คือ เฟซบุ๊ก Deksorkrao เด็กเซราะกราว ทวิตเตอร์ @deksorkrao อินสตาแกรม @deksorkrao และยูทูบ DEKSORKRAO เด็กเซราะกราว ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ