งานศิลปะบนรถไฟในญี่ปุ่น : โมนาลิซ่า ที่ซ่อนอยู่ในโอซาก้า!

ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่เมืองโอซาก้า คงจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง (หรืออาจจะไม่ได้สังเกต) กับรูปที่ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินที่เชื่อมกับสนามบิน เป็นภาพโมโนโทนที่ทำจากกระดาษตัดเป็นสี่เหลี่ยม แล้วปะทั่วงาน จะเห็นว่าเป็นงานดังๆ ระดับโลกคุ้นตาทั้งนั้น   ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทางโอซาก้าเค้ามีงานหรือกิจกรรมประกวดอะไรรึเปล่า แต่เป็นการตกแต่งที่ดูมีระดับดี

Mona lisa (1503-06)

หญิงสาวฝีมือดาวินชี ที่ไม่มีใครบนโลกไม่รู้จัก ผลงานสีน้ำมันบนแผ่นไม้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1503-06 หรือ 500 กว่าปีผ่านมาแล้ว

คงคุ้นตาคุ้นหูกันจนเบื่อแล้วกับภาพโมนาลิซ่า ที่ถูกนำไปวาดซ้ำแล้วซ้ำอีก แปะอยู่บนหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะทุกเล่ม แถมยังนำไปดัดแปลงต่อยอดเป็นผลงานศิลปะของศิลปินคนอื่นๆ อีกมากมาย มีการลองตีราคาคร่าวๆ ในยุคสมัยนี้  ถ้าเกิดเหตุการณ์ประมูลภาพโมนาลิซ่าขึ้นมาอีกครั้งในตอนนี้ อาจจะมีราคาถึงกว่า 700 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว (ลองคูณเป็นเงินไทยแล้วเครื่องคิดเลขยังใส่เลข 0 ไม่พอ)  แต่จะไม่เกิดขึ้นแน่นอนเพราะโมนาลิซ่ากลายเป็นมรดกของฝรั่งเศสไปเรียบร้อย และจะไม่ขายให้ใครอีกต่อไป

ปัจจุบันสามารถไปดูผลงานจริงๆ ได้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ประเทศฝรั่งเศส

The Gleaners (1857)

ภาพหญิงสามคนกำลังเก็บเกี่ยว เรียกว่าเป็นภาพของชนชั้นแรงงานโดยแท้ ถูกสร้างขึ้นโดย Millet ในปีค.ศ. 1857 ที่เรียกได้ว่าเป็นยุคของศิลปะแบบสัจนิยม (Realism Art) ก่อนหน้านี้หรือช่วงศิลปะแบบเรอเนซองส์ ศิลปินมักจะวาดอะไรที่เกี่ยวกับชนชั้นสูง ศาสนา เทพปกรณัมกรีก-โรมัน ค่อนข้างจะอุดมคติ แต่ในยุคนี้จะเริ่มวาดอะไรที่เป็นสัจธรรมความจริงมากขึ้น อย่างเช่น The Gleaners ที่สะท้อนชีวิตของหญิงชาวบ้านที่กำลังหาเศษข้าวที่ตกหล่นระหว่างเกี่ยว ซึ่งเป็นสภาพชีวิตของชาวชนบทหลังที่ฝรั่งเศสทำการปฏิวัติอุตสาหกรรม ผู้ชายที่เคยทำไร่ทำนาก็ต้องไปใช้แรงงานแทน หน้าที่นี้ถึงตกเป็นของผู้หญิงที่เคยแต่ทำงานบ้าน

การวาดสะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้านแบบนี้เป็นที่วิพากย์วิจารย์ของนักวิจารย์ศิลปะอยู่เหมือนกัน แต่จากที่ดูผลงานทั้งหมดของ Millet แล้วเขาไม่น่าจะใส่ใจอะไร เพราะยังคงทำงานเกี่ยวกับผู้คนชนบทอย่างต่อเนื่อง

Bal Du Moulin De La Galette (1876)

ผลงานของเรอนัวร์ผู้โด่งดังจากลัทธิ Impressionism (ลัทธิประทับใจ) ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มค้นหาอะไรใหม่ๆ โดยมีโมเน่ต์เป็นผู้นำ

Bal Du Moulin De La Galette หรือ การเต้นรำที่มูแล็งเดอลากาเล็ต ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1876 มีจุดน่าสนใจของภาพอยู่ที่การใส่แสงแดดที่ลอดใบไม้มากระทบคน เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้คนจำชิ้นงานนี้ของเรอนัวร์ได้ และกลายเป็นอีกภาพจำของลัทธิ Impressionism  ภาพโด่งดังนี้มีราคาถึง 78 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) ในการซื้อขายปีค.ศ. 1990

Nascita Di Venere (1484-1486)

หรือที่เรารู้จักกันในนาม The Birth of Venus อีกผลงานเด่นในยุคเรอเนซองส์ โดยบอตติเชลลี แนวคิดมาจากประวัติของวีนัส เทพีแห่งความรัก ที่ว่ากันว่าเกิดจากเกลียวคลื่น

เราจะได้ยินชื่อวีนัสและเห็นภาพผ่านจินตนาการของศิลปินแตกต่างกันไป (แน่นอนว่าเห็นจนเบื่ออีกเหมือนเดิม) ตั้งแต่ยุคหินมาจนถึงปัจจุบัน