แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 18)

การคมนาคมระบบรางซึ่งมีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คือเส้นทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย

ชื่อทรานส์-ไซบีเรีย ก็บอกอยู่แล้วว่า นี่คือเที่ยวเดินทางที่จะเข้าสู่ไซบีเรีย ดินแดนอันหนาวเหน็บแห่งทวีปเอเชีย นอกจากความโด่งดังของสุนัขหิมะสุดน่ารักพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้แล้ว ไซบีเรีย ยังมีชื่อเสียงในด้านการเป็นอาณานิคมค่ายกักกันเย็นยะเยือกอันไกลโพ้นสถานที่เนรเทศนักโทษการเมืองอันเลื่องชื่อของสหภาพโซเวียต

แต่ก่อนจะเข้าสู่ไซบีเรียด้วยขบวนรถไฟแห่งความฝัน ต้องเริ่มจากสถานีเมือง Yekaterinburg

ในกลางปีนี้ ที่ประเทศรัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หรือ Russia World Cup 2018 เมือง Yekaterinburg เป็นหนึ่งในสนามสำคัญที่ทาง Moscow ได้เลือกเฟ้น Yekaterinburg Arena สนามฟุตบอลประจำเมือง Yekaterinburg สนามเหย้าของสโมสร FC Ural Yekaterinburg แห่งศึกพรีเมียร์ลีกรัสเซีย ความจุ 35,000 ที่นั่ง ให้รับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันบอลโลกจำนวน 4 นัดด้วยกัน อันประกอบไปด้วย

วันที่ 15 มิถุนายน 2561 ระหว่างอียิปต์กับอุรุกวัย ในกลุ่ม A

วันที่ 21 มิถุนายน 2561 ระหว่างฝรั่งเศสกับเปรู ในกลุ่ม C

วันที่ 24 มิถุนายน 2561 ระหว่างญี่ปุ่นกับเซเนกัล ในกลุ่ม H

และวันที่ 27 มิถุนายน 2561 ระหว่างเม็กซิโกกับสวีเดน ในกลุ่ม F

Yekaterinburg จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศรัสเซีย รองมาจาก Moscow Saint Petersburg และNovosibirsk ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากที่ Novosibirsk ไม่ได้รับเลือกให้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกลางปีนี้ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพด้วย

การที่สโมสรฟุตบอล FC Ural Yekaterinburg แห่งศึกพรีเมียร์ลีกรัสเซียได้นำคำว่า Ural มาเป็นหนึ่งในชื่อสโมสรฟุตบอลด้วยนั้นก็เนื่องมาจาก ความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่าง Yekaterinburg กับ Ural

เพราะ Ural นั้นเป็นทั้งชื่อแคว้นแห่งเขต Sverdlovsk Oblast เขตใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกของรัสเซีย ที่มี Yekaterinburg เป็นเมืองหลวง นอกจากนี้ Ural ยังเป็นชื่อของเทือกเขาสำคัญของ Yekaterinburg

เทือกเขา Ural ทอดตัวยาวต่อเนื่องในแนวทิศเหนือจรดใต้เป็นพรมแดนธรรมชาติที่คั่นทวีปยุโรปกับทวีปเอเชีย เหมือนกับตุรกี เพราะรัสเซียตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งสองทวีปดังกล่าว นั่นหมายถึง Ural คือเทือกเขาที่กางกั้นประเทศรัสเซียและประเทศคาซัคสถานนั่นเอง

Ural เป็นเทือกเขา ที่ประกอบด้วยมวลหินหลากหลายยุคที่ผ่านกระบวนการกัดกร่อนตามธรรมชาติ การพังทลาย และการทับซ้อนกันมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดเป็นเนินหินเตี้ยๆ มากมาย โดยแต่ละเนินมีความสูงเฉลี่ย 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล

และที่สำคัญก็คือ เป็นแหล่งฟูมฟักให้กำเนิดเหมืองเกลืออันมีชื่อเสียงของ Yekaterinburg

เหมืองเกลือใต้ดิน หรือ Psychedelic Salt Mines นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ Yekaterinburg โดยจะเรียกว่าเป็น Basement Landmark ของ Yekaterinburg ก็ว่าได้

เนื่องจาก แต่เดิม Yekaterinburg ถือเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนัก ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ที่ผ่านมาจึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่มากนัก ทางการรัสเซียจึงพยายามดึงเอาทรัพยากรทางการท่องเที่ยวต่างๆ ขึ้นมาเพื่อเป็นเรือธงในการดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยจะออก Start กันที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกลางปีนี้

ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียที่เมือง Yekaterinburg เทือกเขา Ural หรือ Yekaterinburg Arena สนามฟุตบอลประจำเมือง Yekaterinburg สนามเหย้าของสโมสร FC Ural Yekaterinburg แห่งศึกพรีเมียร์ลีกรัสเซีย และที่พลาดไม่ได้ก็คือเหมืองเกลือใต้ดิน Psychedelic Salt Mines

เหมืองเกลือใต้ดิน Psychedelic Salt Mines แห่งเมือง Yekaterinburg อยู่ลึกลงมาจากระดับผิวดินเข้าไปประมาณ 200 เมตร

เหมืองร้างใต้ดิน อุดมไปด้วยความสวยงามแทรกซึมด้วยอารมณ์พิศวง  ที่แม้ภาพริ้วรอยคมคลื่นบนผนังจะแสนตื่นตาตื่นใจมากเพียงใด แล้ยิ่งสืบสาวเท้าก้าวเข้ายิ่งลึกเท่าไหร่ ทัศนียภาพใหม่ๆ ก็ยิ่งจะเผยความตระการตามากขึ้นๆ เป็นเท่าทวีคูณ

ทว่า ไม่มีกุหลาบใดไร้หนาม ท่ามกลางความสวยงามของผนังเหมืองเกลือ Psychedelic Salt Mines ยังมีอันตรายแอบแฝงอยู่ด้วยอนุภาคขนาดเล็กของเกลือที่เจือปนอยู่กับออกซิเจนในอากาศ

อ่านตอนที่ผ่านมาได้ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17