เข้าสู่เดือนใหม่กันแล้วแต่สถานะทางการเงินของมนุษย์เงินเดือนหลายคนกลับอยู่ในสถานการณ์ที่ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” เพราะมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แถมยังต้องเคลียร์หนี้สินต่าง ๆ ที่คั่งค้างอีก ทำให้แต่ละเดือนแทบไม่เคยมีเงินให้เหลือเก็บ
ถ้าไม่อยากอดมื้อกินมื้อ มีเงินเก็บ และสามารถผ่อนจ่ายค่าที่อยู่อาศัยหรือยานพาหนะได้แบบไม่ต้องดิ้นรนให้มากนัก ก็จำเป็นต้องบริหารจัดการเงินที่มีอยู่ให้ได้เสียก่อน เพียงแค่ใช้สูตร 50-20-30 ด้วยการแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
เงินส่วนแรก: 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนแรกเป็นจำนวนเงินที่หักจากรายได้ประจำ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าผ่อนบ้าน ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ทั้งหมดนี้อยู่ในก้อนแรก 50 เปอร์เซน์ (ถ้ามีเงินเดือน 15,000 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้จำกัดอยู่ในวงเงิน 7,500 บาท)
เงินส่วนที่สอง: 20 เปอร์เซ็นต์
ส่วนนี้คือเงินออมและเป็นเป้าหมายทางการเงินที่ควรทำให้งอกเงย อาทิ ซื้อประกันชีวิตแบบสะสมเงิน, ซื้อกองทุน หรืออย่างน้อย ๆ ก็ไปปลดหนี้บัตรเครดิตให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะการปลอดหนี้จากบัตรเครดิต จะทำให้คุณมีต้นทุนในการออมเหนือกว่าคนที่เต็มไปด้วยหนี้สิน (ถ้ามีเงินเดือน 15,000 บาท หักส่วนนี้ไว้เลย 3,000 บาท)
เงินส่วนที่สาม: 30 เปอร์เซ็นต์
เงินส่วนนี้คือการสร้างความสุขให้กับตนเอง เพราะเป็นเงินที่กันไว้สำหรับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหลังหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเงินออมไปแล้ว เช่น ท่องเที่ยว ดูหนัง คอนเสิร์ต ซื้อข้าวของต่าง ๆ หรือแฮงค์เอ๊าต์กับเพื่อน ๆ (ถ้ามีเงินเดือน 15,000 บาท หักไว้เพื่อการนี้ไม่เกิน 4,500 บาท)
ทั้งหมดนี้คือสูตรการวางแผนทางการเงินที่ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป เป็นการบริหารจัดการเงินที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น โดยไม่เป็นหนี้ และยังมีเงินเหลือเก็บ และจับจ่ายซื้อของฟุ่มเฟือยได้บ้าง
