ในขณะที่การลุ้นตำแหน่งแชมป์ฝั่งเอฟวัน ลูอิส แฮมิลตัน เช็คบิลคว้าแชมป์โลกแบบจืดชืดไปตั้งแต่ 3 สนามสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล ทว่าการลุ้นแชมป์ฝั่งโมโตจีพี ต้องตัดสินหาตำแหน่งแชมป์โลกในสนามสุดท้ายสุดสัปดาห์นี้ ที่สนามริคาร์โด้ ตอร์โม่ เซอร์กิต เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน
ต้องบอกว่าการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้คือ “เรซหยุดโลก” อย่างแท้จริงครับ แม้ว่า มาร์ก มาร์เกซ แชมป์โลกจากเรปโซล ฮอนด้า จะมีแต้มขึ้นหน้า อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ ผู้ท้าชิงจากดูคาติอยู่ถึง 21 คะแนน แต่ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศหลายสำนักพยายามที่จะเปรียบเทียบการลุ้นแชมป์ในปีนี้ กับการลุ้นแชมป์โลกในปี 2006
ในครั้งนั้น นิคกี้ เฮย์เดน ที่มีแต้มตามหลัง วาเลนติโน่ รอสซี่ 8 คะแนน ทำแต้มแซง วาเลนติโน่ รอสซี่ เข้าป้ายเป็นแชมป์โลกในสนามสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งในครั้งนี้ ช่องห่าง 21 แต้มดูเหมือนจะเป็นช่องห่างที่ยากและหินสุดๆของโดวิ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ นักบิดอิตาเลียนจะพลิกสถานการณ์แซงเป็นแชมป์โลกเหมือนกับที่ “เดอะ แคนตั๊กกี้ คิด” ทำได้ในปี 2006 หรือไม่
ก่อนออกสตาร์ทสนามสุดท้าย มาร์เกซได้เปรียบเหลือเกินที่จะได้ครองแชมป์โลกโมโตจีพีสมัยที่ 4 เพราะเงื่อนไขเดียวที่ มาร์เกซ จะวืดตำแหน่งแชมป์โลกคือ “โดวิ” ต้องคว้าแชมป์สนามสุดท้ายให้ได้สถานเดียว และมาร์เกซจบการแข่งขันต่ำกว่าอันดับที่ 11 ลงไป
แน่นอนครับช่องห่าง 21 แต้ม มันคือช่องห่างที่เยอะมากๆ ฉะนั้นประเด็นที่มาร์เกซจะจบการแข่งขันตั้งแต่อันดับ 11 ลงไปนั้นดูแล้วแถบจะเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่ว่า มาร์เกซ จะล้ม! ซึ่งประเด็นหลังนี้ เว็บไซต์โมโตจีพีเองมีการขุดสถิติที่น่าสนใจของปี 2017 ที่อาจทำให้แฟนๆนักบิดคาตาลันวัย 24 ปี ต้องหนาวๆร้อนๆ
สถิติที่ว่าคือ ที่ผ่านมา 17 สนามในฤดูกาล 2017 มาร์เกซ ทำสถิติเป็นนักแข่งที่ไม่ใช่รุกกี้ (ไม่ใช่นักแข่งหน้าใหม่) ที่ “ล้ม” มากที่สุดถึง 25 ครั้ง ซึ่ง 2 จาก 25 ครั้ง คือการล้มในวันแข่งขัน ที่อาร์เจนติน่า และฝรั่งเศส ที่ทำให้เขาไม่มีแต้ม ส่วนอีก 23 ครั้งเป็นการล้มในรอบฝึกซ้อมและรอบควอลิฟาย
แม้จะล้มเยอะขนาดนี้ แต่มาร์เกซเองก็ยังบอกว่า “มันคือสไตล์” ที่เขาจะขี่แบบ 100 เปอร์เซนต์ทุกครั้งไม่ว่าจะรอบซ้อมหรือรอบแข่ง เรื่องนี้ให้ไปถาม “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ ได้ เพราะเคยถูกมาร์เกซขี่ชนเข้าอย่างจัง ทั้งๆที่หมดเวลารอบฝึกซ้อมไปแล้ว สมัยแข่งขันโมโตทู ที่ออสเตรเลียในปี 2011
อย่างไรก็ดี จากสถิติที่ผ่านมา ก็พอจะทำให้แฟนๆฮอนด้าอุ่นใจได้บ้าง เมื่อ “โดวิ” ไม่เคยชนะที่บาเลนเซีย และมาร์เกซ ก็ไม่เคยล้มที่บาเลนเซีย (ในวันแข่งขัน) เช่นกัน อย่างไรก็ดีทุกอย่างยังสามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา เพราะมาร์เกซจะต้องแบกรับความกดดันกับคำว่า “ล้ม” เอาไว้ในการแข่งขันวันอาทิตย์นี้ ตราบใดยังไม่ขี่รถผ่านเส้นชัยในรอบสุดท้าย
ส่วนตัวแล้ว ผมปันใจเชียร์ นักบิดวัย 31 จากอิตาลี เพราะนี่คือฤดูกาลที่เขาเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์โลกมากที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังเชื่อว่า นักบิดที่ล้มมากที่สุดในฤดูกาลนี้จะเป็นแชมป์โลกในบั้นปลายครับ
