มหาวิทยาลัย beIN SPORTS ตอนที่ 1


มหาวิทยาลัย beIN SPORTS ตอนที่ 1

เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “ทำงานกับฝรั่ง มันจะดีนะ มันจะได้มุมมองที่แตกต่างออกไป” ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดนี้สักเท่าไหร่ จวบจนในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา

ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา จนมาถึงช่วงสัปดาห์ล่าสุด ผมในฐานะโปรดิวเซอร์ของบริษัท ต้นคิด มีเดีย มีโอกาสได้เปิดประสบการณ์อันล้ำค่า กับการได้ร่วมงานกับบริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในบ้านเรา จนทำให้มานึกย้อนหลังไปว่า หากเมื่อ 10 ปีที่แล้วตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท จะมีโอกาสดีๆบนเส้นทางสายนี้หรือไม่

เหตุผลที่ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อปริญญาโทในตอนนั้นคือ “ถ้าเรียนต่อมีแต่ต้องใช้เงิน แต่ทำงานสิได้เงิน” สาบานได้ว่าผมคิดแบบนั้นจริงๆครับ ซึ่งมันอาจจะผิดสำหรับบางคน แต่กับสายงานของผมแล้ว คิดว่า ตลอด 10 กว่าปีของการทำงาน หากเปรียบสถานที่ทำงานเป็นมหาวิทยาลัย ผมคงเข้าศึกษามาแล้วไม่รู้กี่สถาบัน (แต่เรียนจบหรือเปล่า นั่นอีกเรื่องนะครับ ฮ่าๆ)

หลังรับตำแหน่งนิเทศศาสตรบัณฑิตจากรั้วม.กรุงเทพ เมื่อปี 2548 ผมก็เรียนต่อที่ บริษัทสมาร์ทบอม ต่อด้วยเว็บไซต์สยามกีฬา ต่อด้วย หนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเมเนเจอร์ ออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีวิชาเรียนที่ทรูสปอร์ต และทรูโฟร์ยู ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนยาวกับบริษัท ต้นคิด มีเดีย มาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนการทำงานกับฝรั่งอย่างที่จั่วหัวไปในตอนต้น คือการที่ได้โอกาสเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานในรายการพรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลปัจจุบัน ในนาม บริษัท ต้นคิด มีเดีย ทางช่อง beIN SPORTS1 ซึ่งแม้ beIN จะเป็นบริษัทจากกาตาร์ แต่ทีมงานที่เกือบทั้งหมดเป็นชาวตะวันตก ร่วมถึงยังมีทีมงานอีกหลายชาติจากแถบเอเชียเรา

หนึ่งในเฮดใหญ่ที่ผมพูดถึงนี้เป็นคนอังกฤษนามว่า “ริชาร์ด แมทธิว” เขาเปรียบเสมือนเป็นอาจารย์ที่เข้ามาเปลี่ยนแนวคิดหลายสิ่งหลายอย่างกับผมและทีมงานโดยเฉพาะรูปแบบการดำเนินรายการ ประเด็นพูดคุย มุมกล้องที่ไม่ยึดติดอยู่ในกรอบเดิมๆ การเลือกใช้ฟุตภาพ ไม่เว้นแม้รายละเอียดปลีกย่อย อาทิ แถบชื่อผู้ดำเนินรายการ

ทั้งหมดนี้มันเปรียบเสมือนห้องเรียนในชีวิตจริงสำหรับผม แต่วิชาเรียนมันยังไม่หมดแค่นี้ครับ เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อน beIN SPORTS แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แจ้งมาว่า จะส่งทีมโปรดักชันส์ มาถ่ายทำสปอตโปรโม่ beIN SPORTS Thailand

ทว่าภาพของทีมโปรดักชั่นส์ที่ผมนึกไว้ กับสิ่งที่ได้เจอ กลายเป็นแค่ โปรดิวเซอร์หน้าตี๋ 1 คนถ้วน นามว่า “เจฟฟ์ หย่อง” ที่มาพร้อมกับแม็คบุ๊ค 1 เครื่อง เท่านั้น!

แล้วอิตานี่คนเดียว จะมาถ่ายโปรโม่ได้อย่างไร เอาไว้สัปดาห์หน้า จะมาเล่าเรื่องในมหาวิทยาลัยนี้ให้ฟังกันต่อครับ