เที่ยว Estonia ประเทศ Hi-tech (ตอนจบ)

เที่ยว Estonia ประเทศ Hi-tech (ตอนแรก)

Tallinn คือ Silicon Valley ของ Estonia เพราะ Tallinn เปี่ยมไปด้วยความทันสมัย และการเปิดกว้างในทุกๆ ด้าน ดังที่เขียนไว้ในตอนที่แล้ว

โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี เหมือนที่ผมพาดหัวตัวไม้เอาไว้ว่า “เที่ยว Estonia ประเทศ Hi-tech”

Tallinn ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองฝาแฝด” ของ Helsinki เมืองหลวงประเทศ Finland

Estonia คือหนึ่งใน 3 ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น The Baltic States หรือรัฐที่มีชายฝั่งติดกับ “ทะเลบอลติก” อันประกอบไปด้วย Estonia Latvia และ Lithuania

Tallinn ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปเหนือ” Tallinn จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปเหนือขนานแท้และดั้งเดิม ที่ล้วนได้รับการก่อสร้างขึ้นก่อนศตวรรษที่ 14

Tallinn อุดมไปด้วยโบสถ์เก่าแก่ อนุสาวรีย์ ตึกรามบ้านช่องรูปทรงโบราณ ที่ยืนเคียงข้างกับสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ไนต์คลับ ผับ บาร์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกสมัยใหม่ ฯลฯ

ด้วยความที่ Tallinn เป็นเมืองท่าที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของ The Baltic States กรุง Tallinn จึงมีความสำคัญกับธุรกิจท่องเที่ยวของ Estonia เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณย่าน Downtown ที่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ Landmark สำคัญของ ของ Tallinn คือ Lower Town และ Toompea ถนนคนเดิน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถทั้งเดินเท้าหรือขี่จักรยานได้ทุกพื้นที่

โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Rocca-al-Mare ซึ่งมี Highlight คือกังหันลมโบราณ ของวิหาร Sutlepa อาคาร Kolu tavern และ Toompea Castle ปราสาทต้นศตวรรษที่ 13 ซึ่งโดดเด่นด้วยสีชมพูสดใส

พระราชวัง Kadriorg ที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของพระเจ้าปีเตอร์ มหาราช สร้างขึ้นในปีค.ศ.1718 ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ KUMU สำหรับจัดแสดงศิลปะร่วมสมัย เมืองชายฝั่ง Pirita อยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง Kadriorg จุดเด่นคือสวนพฤกษชาติ และหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ Tallinn Television ที่สูงที่สุดของประเทศ

Estonia มีเทศกาลสำคัญตลอดทั้งปี เหมาะแก่การวางแผนไปเยี่ยมเยือนยิ่งนัก

เรามาเริ่มต้นกันที่ เทศกาลดนตรี Parnu Contemporary Music Days เป็นเทศกาลเก่าแก่ ซึ่งในแต่ละครั้งจะจัดขึ้นยาวนานถึง 3 สัปดาห์ จุดเด่นคือการบรรยายเชิงวิชาการดนตรี และการประชุมเชิงปฏิบัติการ รวมถึงการจัดนิทรรศการควบคู่ไปกับการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ

ต่อกันด้วย เป็นวันเฉลิมฉลองการประกาศเอกราชของ Estonia หรือ The Independence Day ซึ่งจะมีการจัดงานขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ส่วนเทศกาล Midsummer หรือ St.John’s Day เป็นประเพณีที่ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการทำงานทางการเกษตรในฤดูใบไม้ผลิ คล้ายวัน Halloween โดยในเทศการจะมีการแสดงระบำพื้นบ้านต่าง ๆ และมีงานเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรมอีกมากมาย

รวมถึง Old Town Days อีกหนึ่งเทศกาลรื่นเริงที่มีการแสดงอันหลากหลาย ภายในงานเราจะได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน การเต้นรำโบราณแบบดั้งเดิมที่แสนสนุก โดย Old Town Days จะจัดขึ้นในราวต้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี

เทศกาลภาพยนตร์ของ Estonia ก็มีที่น่าสนใจถึง 2 งานด้วย แม้ว่าจะสู้เทศกาลภาพยนตร์ใหญ่ๆ ในยุโรปอย่างคานส์ เวนิส หรือเบอร์ลินไม่ได้ ทว่า TARTuFF หรือ Tartu Film Festival เทศกาลภาพยนตร์ใหญ่ของ Estonia ก็กำลังเป็นที่จับตามองของคนในวงการภาพยนตร์ยุโรปเป็นอย่างมาก

นอกจากเทศกาลหนัง Estonia ยังมีเทศกาลละครเวทีกลางแจ้ง หรือ Street Theatre Festival ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่น่าสนใจที่สุดของบรรดานักการละครยุโรป จัดขึ้นที่ “จัตุรัส Tallinn” เป็นประจำทุกปีเช่นกัน

ปิดท้ายกันที่ Beach Party Festival เทศกาลดนตรีดนตรีที่โด่งดังที่สุดแห่งยุคของยุโรปเหนือ ซึ่งบรรดานักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี จุดเด่นของ Beach Party Festival อยู่ที่การมีแนวเพลงหลากหลายให้เลือกเสพบนเวทีเล็กๆ มากมายซึ่งกระจายอยู่ตามแนวชายหาดยาวเหยียดตลอดสองข้างทาง ควบคู่กับ Beach Party Festival แล้ว Estonia ยังมีเทศกาล Tallinn Baroque Music Festival และเทศกาล Jazzkaar เทศกาลดนตรีแจ๊สสุดเร้าใจอีกด้วย

สำหรับการเดินทางจากสุวรรณภูมิไป Estonia นั้นจะไม่มีเที่ยวบินตรงแต่อย่างใด ทว่า เราสามารถเลือกเที่ยวบินจากสายการบิน Aeroflot KLM กระทั่ง Air China ไป Transit เพื่อต่อเครื่องเข้า Estonia ได้อย่างหลากหลายนั่นเองครับ