“เดอะยิปซี คิง” คือ ฉายาของนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท ที่ชื่อว่า “ไทสัน ฟิวรี่” ชื่อที่ถูกตั้งตาม ไมค์ ไทสัน อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท แน่นอนว่า บนเส้นทางของการเป็นพ่อค้ากำปั้น พื้นเพของ ไทสัน ฟิวรี่ ก็ไม่ได้แตกต่างจากเพื่อนร่วมอาชีพสักเท่าไรนัก แต่วันนี้เราไม่ได้มาคุยถึงชีวิตที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากของ ฟิวรี่ จนกระทั่ง ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์โลก 5 สถาบัน หลังจากชิงเข็มขัดจาก วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ได้สำเร็จ
หากสิ่งที่เราจะมาคุยกันผ่านคอลัมน์ในสัปดาห์นี้ คือ การร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของ ไทสัน ฟิวรี่ และความพยายามกลับขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดให้ได้อีกครั้งในวัย 30 ปี.. ถ้าติดตามข่าวนักมวยรายนี้อย่างต่อเนื่องจะเห็นว่า บุคลิกที่ชัดเจนของ ไทสัน ฟิวรี่ คือ ความปากดีและเป็นคนบ้าระห่ำชนิดที่ไม่มีใครคาดถึง แน่นอนว่า พฤติกรรมของเขามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงออกโดยสัญชาตญาณที่ไม่รู้ว่า ต้องรับมือกับชื่อเสียงและเงินทองที่ถาโถมเข้ามาอย่างไร จนกระทั่งความประพฤติของ ฟิวรี่ เริ่มเกินเลย เมื่อเขาออกมายอมรับว่า ใช้สารเสพติดบางตัว เพื่อช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บปวดและสับสนภายในใจของตนเอง
สามปีที่หายไปจากสังเวียนนับตั้งแต่เอาชนะ คลิทช์โก ได้ในปี 2015 การต่อสู้กับมรสุมชีวิตหลายลูก การต่อสู้กับความรู้สึกที่คิดว่า คนรอบข้างไม่ยอมรับนั้นมากขนาดไหน ในปี 2016 ฟิวรี่ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ตนเองรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง กับการถูกเลือกปฏิบัติในสังคมอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาพิสูจน์ตัวเองจนขึ้นมาเป็นแชมป์โลก แต่ดูเหมือนว่า ไม่มีใครจะยินดีนักที่คนเชื้อสาย “ยิปซี” ( Irish Traveller) อย่างเขาจะประสบความสำเร็จ” และการให้สัมภาษณ์ต่อจากนั้น ฟิวรี่ ถึงกับระบุว่า กำลังตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ลอสแอนเจลิส เมืองที่ผู้คนให้เกียรติคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า
การระบายความรู้สึกของ ไทสัน ฟิวรี่ นั้น ทำให้เห็นว่า ฉายาที่เขาตั้งให้กับตนเองว่า “ยิปซี คิง” นั้น สะท้อนปมที่อยู่ในใจมากขนาดไหน และปมดังกล่าวไม่มีใครลบได้ นอกจากตัวเขาเอง หลังจากที่มีข่าวลือออกมาตลอดเวลาว่า ไทสัน ฟิวรี่ เตรียมแขวนนวม จนกระทั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ประกาศว่า อยู่ในช่วงเวลาเตรียมร่างกาย เพื่อกลับขึ้นสังเวียนอีกครั้ง
นัดสำคัญในการกลับสู่เส้นทางพ่อค้ากำปั้นของ ไทสัน ฟิวรี่ คือ การขึ้นชกกับ ดีออนเต้ ไวลเดอร์ นักชกชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์ WBC รุ่นเฮฟวี่เวท นัดนั้น ฟิวรี่ ถูกชกลงไปนับถึงสองครั้ง (ยกที่ 9 และยกที่ 12) แต่ทั้งสองครั้ง ฟิวรี่ สามารถลุกขึ้นมาได้ทัน โดยผลการแข่งขันนั้น ไทสัน ฟิวรี่ เสมอกับ ดีออนเต้ ไวลเดอร์ ไป และแน่นอนว่า ต้องมีนัดล้างตาของคู่นี้อีกครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนมวย เห็นจากการต่อสู้ในไฟท์นี้ คือ ใจที่ยังคงสู้แบบเกินร้อย ของ “ยิปซี คิง”
หลังจบไฟท์ดังกล่าว ได้เพียงสองสัปดาห์ ไทสัน ฟิวรี่ ถูกรับเชิญไปยังเวทีการประกาศรางวัล BBC Sports Personality of the year award และสิ่งที่ ไทสัน ฟิวรี่ ได้กล่าวบนเวทีทำให้เห็นว่า วันนี้ “ยิปซี คิง” ได้ลบปมในใจของตนเองได้เรียบร้อยแล้ว และคำพูดของเขาน่าจะทำให้หลายคนรู้สึกอยากลุกขึ้นมาสู้บ้าง
“ใครที่ถูกหมัดน็อคของ ดีออนเต้ ไวลเดอร์ กระแทกเข้าหน้าก็ต้องลงไปกองกับพื้นเหมือนกับที่ผมโดน แต่ผมอยากแสดงให้โลกเห็นว่า ไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าคุณต้องเจอกับเรื่องยากลำบากแค่ไหน ต้องผ่านกับความปวดร้าวเพียงใด แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณต้องลุกขึ้นมา เพื่อเดินต่อไปข้างหน้าและสู้ให้ถึงที่สุด”
ไทสัน ฟิวรี่ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถก้าวข้ามความรู้สึกเจ็บปวดในอดีตที่มองว่า สังคมไม่เคยให้การต้อนรับเขา ด้วยการมองโลกในอีกมุมหนึ่ง มุมที่เขาหันมายอมรับความจริงกับสิ่งที่เขาเป็น ซึ่งการเริ่มต้นที่ใจตัวเองก่อนทำให้ ฟิวรี่ ได้เรียนรู้ว่าเสียงของคนอื่นไม่สามารถทำร้ายเขาได้อีกต่อไป เหมือนหมัดน็อค ของ ดิออนเต้ ที่ไม่สามารถโค่นเขาลง
ปี 2562 จะมีหมัดน็อค หนักแค่ไหนก็ลุกขึ้นมาสู้ต่อนะคะ อย่าได้ยอมแพ้ง่าย ๆ
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ
