Blowin’ in the wind คำตอบที่ไม่เคยมีอยู่จริง

Blowin’ in the wind” เพลงที่ บ๊อบ ดีแลน แต่งขึ้นในปี 1962 ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลก่อนที่จะบรรจุเอาไว้ในอัลบั้ม Freewheelin’ Bob Dylan ในปี 1963 เพลงที่ถูกแต่งขึ้นมาในยุคที่อเมริกาอยู่ในช่วงเวลาของ สงครามเวียดนาม และ บรรดาศิลปินนักร้องทั้งหลายต่างเรียกร้องหา สันติภาพ และเสรีภาพ เนื้อหาของเพลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่อนที่บอกว่า The answer, my friend, is blowin’ in the wind : เพื่อนเอย คำตอบที่เธอตามหานั้น มันอยู่ในสายลม (คำตอบที่ไม่เคยมีอยู่จริง)

คนที่เป็นแฟนเพลงอายุ 40 ปีขึ้นไป น่าจะคุ้นเคยกันดีกับเพลงนี้ เพราะในยุคที่เรามีคำถามที่หาคำตอบไม่ได้เรามักจะใช้ ประโยคในข้างต้น เพราะเรารู้กันอยู่แก่ใจดีอยู่แล้วว่าคำตอบที่เราตามหานั้นมันไม่เคยได้เกิดขึ้นจริง

จากปี 1962 จนถึงปัจจุบันเพลง Blowin’ in the wind มีอายุ 56 ปี ถ้าเป็นคนก็ผ่านประสบการณ์ชีวิตจนรู้แล้วว่าคำตอบในสายลม ที่เป็นชื่อเพลงนั้นแท้จริงแล้วคำตอบนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ เหนืออื่นใด เพลงนี้แม้จะถูกแต่งในยุคสมัยที่สังคมโลกกำลังเผชิญกับผลกระทบจากสงครามเวียดนาม หากท้ายที่สุดแล้ว Blowin’ in the wind กลายเป็นเพลงที่ไร้กาลเวลา เป็นเพลงอมตะที่หลายคนในปัจจุบันได้ฟังแล้วอาจน้ำตาคลอเหมือนกับที่ครั้งหนึ่งที่คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ เคยน้ำตาไหลเพราะเพลงนี้มาแล้วในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์

ทำไมเพลง Blowin’ in the wind ถึงได้กลายเป็นเพลงไร้กาลเวลา ทั้งที่เนื้อหาซึ่งเป็นการตั้งคำถามต่อสังคมที่ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งศตวรรษ ก็ยังคงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบในสังคมปัจจุบัน เราเรียกร้องเสรีภาพ สันติภาพ ไปจนถึงความเสมอภาพเมื่อ 50 ปีที่แล้วอย่างไร ทุกวันนี้ผู้คนก็ยังคงเรียกร้องเรื่องเดิม ๆ และคำตอบก็ยังคงอยู่ในสายลมเหมือนเดิม

เหมือนกับความคาดหวังของคนไทย ที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสังคม แต่ทุกคนยังคงดำรงชีวิตเช่นเดิม มีวิธีคิดที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง ขณะที่ศีลธรรมของหลายคนก็เริ่มลดน้อยลง เช่นนี้แล้ว คำตอบที่หลายคนตามหานั้นก็ไม่ต่างไปจากเนื้อเพลงในท่อนสุดท้าย The answer, my friend, is blowin’ in the wind. The answer is blowin’ in the wind.