[รีวิว] นาคี 2 : เมื่อเจ้าแม่นาคีกลับมาอาละวาดอีกครั้งในจอเงิน

หนังไทยในช่วงนี้ถือได้ว่าถาโถมกันมาเยอะทีเดียวไม่ว่าจะเป็น Homestay ,โนราห์ ทั้งหมดนั้นต่างมีเอกลักษณ์และน่าติดตามอย่างมาก แต่มีอยู่อีกเรื่องหนึ่งที่สร้างต่อจากละครนั่นคือ นาคี 2 หนังไทยที่เกี่ยวกับพญานาคซึ่งกระแสมาแรงมากและฐานแฟนคลับจากละครก็ติดตามมาดูภาคต่อในโรงกันอีกด้วย

หนังนั้นเล่าถึงนายตำรวจคนหนึ่งที่ย้ายเข้ามาทำงานในชนบท ซึ่งมีความเชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็นกระสือ กระหัง หรือ พญานาค ซึ่งพญานาคถือว่าเป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง (่ในละครก็บอกอยู่ละเนอะ) นายตำรวจคนนี้ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ สร้อย ที่คอยเคารพบูชาเจ้าแม่นาคีมาตลอด ไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ และเมื่อใดที่มีคนมาลบหลู่คนพวกนั้นจะตายโดยหาสาเหตุไม่ได้ ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นฝีมือของพญานาค แต่นายตำรวจหนุ่มกลับไม่เชื่อแล้วพร้อมที่จะพิสูจน์ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่

จากการที่ดูมาต้องบอกก่อนว่าทางตัวผมนั้นมาดูหนังเรื่องนี้เลย ไม่เคยดูละครมาก่อน ถ้าถามว่าจะเข้าใจมั้ยบอกได้เลยว่าเข้าใจ เพราะต้นเรื่องจะมีเกริ่นที่มาก่อนเพื่อให้เข้าใจง่าย และที่น่ารักอีกเรื่องนึงคือภาษา เพิ่งรู้ว่าภาษาอีสานเป็นภาษาที่น่ารักมาก พอฟังแล้วก็มีความรู้สึกว่าอยากใช้ภาษานี้ในชีวิตประจำวัน ทั้งปอยฝ้าย และ อี้ด โปงลางสะออน ต่างพากันหยอดมุขของภาษานี้ให้มันดูน่ารักมากในหนัง แต่ในส่วนของบทหนังนั้นบอกได้เลยว่าไม่โอเคอย่างมาก บทดูไม่พิถีพิถัน หลังๆ อยากยัดอะไรมาก็ยัด จะเฉลยปมของหนังก็โยนให้ใครไม่รู้เป็นแพะไป ถ้าคนดูละครก็คงรู้แหละ

แต่ส่วนที่สนุกและทำให้ตื่นตาตื่นใจมากที่สุดคงเป็น CG (หรือคอมพิวเตอร์กราฟฟิก) ซึ่งทำออกมาได้สวย ดูเพลินดูสนุกมาก ในซีนของณเดชนั้นบอกได้เลยว่าความรู้สึกเหมือนเห็น กันดั้ม ใน Ready Player One อย่างไงอย่างงั้น

โดยรวมนั้นบอกได้เลยว่าสนุก ถึงบทจะไม่ได้ดีแต่การเล่าเรื่องก็ไม่แย่สักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีหนังไทยที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในปีนี้ คุ้มค่ามากกับการไปดูและไม่รู้สึกเสียดายค่าตั๋วเลย ถ้าเป็นไปได้ก็จะดูละครให้จบแล้วไปดูนาคี2 อีกรอบอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้หวังว่าหนังไทยเรื่องนี้คงไปไกลมากกว่า 100 ล้าน และอยากให้ได้สัก 500 ล้านขึ้นไปเผื่อจะมีภาค 3 มาให้ดูกัน