เมื่อประสบการณ์โบยตีเรา

“ปล่อยให้ประสบการณ์โบยตีเขาไป” เป็นประโยคที่สะดุดใจไม่น้อย เมื่อได้ยินครั้งแรกที่ต้องย้อนกลับไปเกือบ 20 ปีประโยคที่เอ่ยจากปากของบรรณาธิการหญิงแกร่งคนหนึ่งของวงการสิ่งพิมพ์ในเวลานั้นพูดกับผู้เขียน ถึงคนที่เชื่อมั่นในตนเอง และเอาแต่พุ่งทะยานไปข้างหน้า โดยไม่สนใจว่าผลลัพท์จากการไปถึงเป้าหมายนั้น จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ในฐานะผู้สังเกตการณ์เราก็ได้แต่ปล่อยเขาไป และปล่อยให้ประสบการณ์จากเหตุการณ์เป็นผู้โบยตีเขาเอง

คำพูดเพียงแค่ประโยคเดียวในเวลานั้น ติดอยู่ในใจของผู้เขียนมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ลิ้มรสชาติของประสบการณ์ที่โบยตีเราอย่างหนักหน่วงในบางช่วงชีวิต แม้ว่าจะพยายามแก้ไขแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีพอจนทำให้ประสบการณ์โบยตีซ้ำอีกครั้ง และกว่าจะคิดได้ บาดแผลจากประสบการณ์ที่ตกสะเก็ด จนกลายเป็นแผลเป็นกลายเป็นเครื่องเตือนใจว่า เราครั้งหนึ่งเราเคยผิดพลาดมาแล้ว และไม่ควรปล่อยให้เกิดความผิดพลาดอีกครั้ง

ถ้าคุณผู้อ่าน อยู่ในวัยที่เพิ่งเริ่มทำงาน คุณอาจไม่ได้สนใจว่า จะถูกประสบการณ์โบยตีอย่างไร เพราะความมั่นใจและ หวังทะยานไปข้างหน้า ทำให้เรามองเห็นแต่ภาพอนาคตที่แสนจะสวยงามรออยู่ จนกระทั่ง เมื่อเราลงสู่สนามชีวิตจริง แต่ละก้าวที่กว่าจะก้าวข้ามไปได้ ตั้งแต่เพื่อนร่วมงานที่พร้อมจะชักดาบแทงเราได้ตลอดเวลา เจ้านายที่เอาแต่ใจตัวเอง หรือแม้กระทั่งบริษัทที่เอาเปรียบพนักงานชนิดใช้งานกันคุ้มค่าทุกบาท ทุกสตางค์ ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ที่ทุกคนต้องพบเจอ

บางคนชีวิตเต็มเปี่ยมไปด้วยความฝันที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตนเอง พอเริ่มต้นจริง ต้องเจอตั้งแต่ลูกค้าที่มีความต้องการไม่สิ้นสุด ใบเรียกเก็บเงินที่เวลาผ่านไปแล้วกว่าครึ่งปียังเก็บเงินไม่ได้ หรือแม้แต่เพื่อนที่เริ่มต้นมาด้วยกันแต่กลับถอดใจกลางทาง ทิ้งให้คุณต้องเดินต่อไปข้างหน้าคนเดียว เหล่านี้ล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิต เป็นประสบการณ์ที่จะโบยตีให้เราได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของการมีชีวิตอยู่ในโลกจริง

มีคำกล่าวหนึ่งของนักเขียนอาวุโส เคยเปรียบประสบการณ์ชีวิตกับรอยแผลเป็นบนร่างกายว่า “คนที่บอกว่าตัวเองประสบความสำเร็จโดยไม่มีบาดแผลแสดงว่าเขาโกหกคุณ หรือไม่เขาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตนเอง เพราะคนประสบความสำเร็จที่แท้นั้น พวกเขาก็เปรียบเสมือนนักรบที่มีร่องรอยของบาดแผลอยู่ทั่วร่างกาย และคนเหล่านี้จะใช้แผลเป็นดังกล่าวไว้เตือนใจว่า ชีวิตเคยผ่านอะไรมาบ้าง

ถ้าในวันนี้ คุณกำลังโดนประสบการณ์ชีวิตโบยตี อย่ามัวแต่นั่งเสียใจ หรือฟูมฟายกับมัน ขอให้กัดฟันอดทนกับความเจ็บปวด เพราะไม่นานบาดแผลนั้นก็จะหาย แล้วคุณก็เดินต่อไป เดินต่อไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งใจเอาไว้ และใช้ประสบการณ์ที่คุณเคยถูกโบยตีเป็นบทเรียนเพื่อที่จะไม่ผิดพลาดซ้ำอีกต่อไป

แล้วพบกันใหม่ค่ะ