แบกเป้ไปดูบอลโลกที่รัสเซียแบบไม่ง้อทัวร์ (ตอนที่ 23)

มหาวิหาร St. Isaac จัดเป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Saint Petersburg

เพราะ มหาวิหาร St. Isaac  สีขาวโพลน ฉาบยอดโดมด้วยทองคำแท้ 100 กิโลกรัม อีกทั้งการตกแต่งภายในได้ใช้หินอ่อน 100% ร่วมด้วยหินมีค่าอื่นๆ อีกกว่า 43 ชนิด และประติมากรรมเหล็ก

ความสำคัญของมหาวิหาร St. Isaac ก็คือการใช้เป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของ Peter the Great หรือพระมหากษัตริย์ปีเตอร์มหาราช กับสมเด็จพระนางเจ้าแคทเธอรีน

โดยที่ต่อมา Saint Petersburg ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ขึ้น จึงได้มีการก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์มหาวิหาร St. Isaac ขึ้นใหม่ ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ราวปี ค.ศ. 1818

งานซ่อมสร้างมหาวิหาร St. Isaac ได้รับการออกแบบและควบคุมการบูรณปฏิสังขรณ์โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อดัง ผู้มีนามว่า Auguste de Montferrand โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 40 ปี

ผ่านการออกแบบในสไตล์ของสถาปัตยกรรมยุค Renaissance ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมยุค Baroque ซึ่งเป็นรูปแบบการก่อสร้างมหาวิหารชั้นนำของยุโรป นั่นคือศิลปะกระจกสีอันโดดเด่น

Landmark สำคัญอีกแห่งของเมือง Saint Petersburg คือ โบสถ์แห่งหยดเลือด หรือ The Church of Christ’s Resurrection

ประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้ามักมาคู่กับความงดงาม The Church of Christ’s Resurrection ก็เช่นกัน

เพราะ โบสถ์แห่งหยดเลือด ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ในรำลึกถึงพระบิดาของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 คือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งถูกลอบปลงพระชนม์เมื่อปี ค.ศ.1881 บนถนน Nevsky Prospect เมือง Saint Petersburg ในปัจจุบัน

ต้นเหตุของการลอบปลงพระชนม์ก็เนื่องมาจากการที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 พยายามที่จะปลดปล่อยชาวนาและกรรมกร พูดง่ายๆ ก็คือเลิกทาสนั่นเอง ทำให้เหล่าขุนนางที่เสียประโยชน์เกิดความไม่พอใจ จึงร่วมกันวางแผนลอบปลงพระชนม์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ในเวลาต่อมา

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 The Church of Christ’s Resurrection ได้รับความเสียหายสงคราม และเมื่อสงครามสิ้นสุดได้มีการบูรณะ The Church of Christ’s Resurrection ขึ้นใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือโบสถ์ Orthodox ที่รังสรรค์ด้วยรูปแบบศิลปะยุค Renaissance หรือช่วงเวลาทองของยุคแห่งการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการในยุโรป เรียกได้ว่าอลังการงานสร้างตั้งพื้นพรมจรดฝ้าเพดาน รวมถึงฝาผนัง ทั้งหมดเป็นงานภาพเขียนสีน้ำมันขนาดใหญ่ รวมถึงงานโมเสกและงานกระจกสี เรียกได้ว่าทุกซอกทุกมุมมีความละเมียดบรรจงและสวยสดงดงามทุกตารางนิ้ว

The Church of Christ’s Resurrection ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่าเปี่ยมด้วยสีสันสวยงามตระการตาอยู่บริเวณริมคลอง Griboyedov เนื่องจากตัวโบสถ์มิได้ติดอยู่กับถนนหลักเหมือน Kazan Cathedral ต้องเดินลัดเลาะลดเลี้ยวมาตามคลอง Griboyedov ที่เชื่อมอยู่กับ Nevsky Prospect

เราขออำลา Saint Petersburg ด้วยมหาวิหาร Kazan

มหาวิหาร Kazan สร้างขึ้นในรัชสมัยของ Peter the Great หรือพระมหากษัตริย์ปีเตอร์มหาราช เมื่อปี ค.ศ.1708 ตั้งอยู่ บนถนน Nevsky Prospect ถนนเส้นหลักกลางใจเมือง

ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม Neo-Classic ผสมผสานกับสถาปัตยกรรม Roman

แบบอิตาลี ต่อมาได้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสขึ้น จึงได้นำรูปปั้นของผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพเรือ คือ Mikhail Kutuzov และ Barclay de Tolly มาจัดแสดงเป็นอนุสรณ์ไว้ด้านหน้าด้วยค่ะ

มหาวิหาร Kazan มีลักษณะเป็นรูปทรงครึ่งวงกลม โดยวาง Column หรือเสาหินเรียงรายตามแบบฉบับ Rome ติดตั้งประดับประดาเอาไว้อย่างเป็นระบบระเบียบแบบแนวยาว ซึ่งประกอบไปด้วยเสาหินสไตล์ Roman จำนวน 96 ต้น ค้ำยันโดมขนาดใหญ่ซึ่งมียอดสูงถึง 90 เมตร

อ่านตอนที่ผ่านมาได้ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22