สรุปบอลโลกถ่ายช่องไหน

เหลือเวลาไม่ถึง 2 เดือนแล้วนะครับที่ฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉากขึ้นที่รัสเซีย เวลานี้คนอังกฤษพากันลุ้นว่าใครจะเป็นผู้เล่น 11 คนแรก คนบราซิลก็ลุ้นเนย์มาร์ว่าจะฟิตทันช่วยทีมชาติลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 6 ได้หรือไม่ ด้านคนรัสเซียเองก็ลุ้นไม่ให้มีสงครามโลกครั้งที่ 3 ส่วนคนไทยก็ลุ้นเหมือนกันว่าทีวีช่องไหนจะถ่ายทอดสด

ตั้งแต่จำความได้ ผมทันดูฟุตบอลโลกแบบจริงจังครั้งแรก สมัยเรียนป.2 ในศึกฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี ตอนเด็กๆจำได้ว่า ฟุตบอลโลกแต่ละครั้งเราจะได้ดูผ่านการถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีตามปกติ แต่มาในยุคหลังๆ ทุกอย่างมันดูซับซ้อนวุ่นวายมากขึ้น อย่างในฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว กว่าที่อาร์เอสเจ้าของลิขสิทธิ์จะสรุปลงตัวในการถ่ายทอดสดได้นั้น ถึงกับต้องไปจบกันที่ศาลปกครองสูงสุดเลยทีเดียว

มาถึงฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังไม่รู้เลยว่า สรุปแล้วเราจะได้ชมฟุตบอลโลกจากการถ่ายทอดสดทางช่องใดบ้าง มีแต่การให้ข่าวจากฝั่งรัฐบาลและการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ยืนยันมาหลายเดือนแล้วว่า “คนไทยได้ดูบอลโลกแน่นอน ใจเย็นๆ มีข้อสรุปเร็วๆ นี้แน่นอน”

หากจะพูดกันตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม สิ่งที่ทำให้ทุกฝ่ายยังสรุปเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกไม่ได้ มีอยู่เรื่องเดียวครับนั่นก็คือ “เงิน” เพราะยุคนี้ฟุตบอลมันคือธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ว่ากันว่า ตัวเลขของค่าสิขสิทธิ์ในครั้งนี้ทะลุเกือบแตะหลัก 1,500 ล้านบาท ไม่มีเอกชนเจ้าไหนอยากเจ็บตัวที่จะทุ่มซื้อมาถ่ายทอดสดแล้วขาดทุนแน่นอน

มันเลยเป็นกลายเป็นช่องทางของรัฐบาล ที่จริงๆ แล้วไม่ได้มีหน้าที่ซื้อลิขสิทธิ์โดยตรง เข้ามาทำตัวเป็นพ่อบ้านใจดี จัดแจงมัดมือชก (เอ่ย!ไม่ใช่ครับ) จัดแจงรวบรวมพันธมิตรภาคเอกชนมาช่วยกันลงขันเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 เพื่อนำมาถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ชมกัน แต่ถึงเวลานี้ ทุกอย่างยังไม่ลงตัวเท่านั้นเอง

อย่างล่าสุด เอกชนซึ่งเป็นค่ายเครื่อข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังถอนตัวออกไป แล้วมีเอกชนรายใหม่ซึ่งเป็นสถาบันทางการเงินเข้ามาร่วมวงด้วยแทน คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่า ยังเคลียร์เรื่องเงินกันไม่ลงตัวครับ งานนี้เลยทำให้ผู้ใหญ่ฝั่งรัฐบาลที่ตั้งเป้าอยากให้งานนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงยังคงต้องร้องเพลงรอต่อไป

พูดถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ บอกได้เลยคนไทยว่าเขี้ยวๆ แล้วไปเจอตัวพ่อผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างฟีฟ่า ยิ่งเขี้ยวกว่าหลายเท่าตัวครับ เพราะเท่าที่รู้มา ใช่ว่าผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว จะมาจัดแพ็คเกจทำโปรโมชั่นทางการค้าตามใจนะครับ เพราะฟีฟ่าเขามีเกณฑ์ที่ชัดเจนว่า ห้ามผู้ถือลิขสิทธิ์ไปทำกิจกรรมที่มีโลโก้หรือสินค้าที่เป็นคู่แข่งกับพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของฟีฟ่าเด็ดขาด

อ้าว แล้วแบบนี้ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งตามข่าวคือหนึ่งในพันธมิตรครั้งนี้จะทำอย่างไร เมื่อสินค้าของพวกเข้าไปขัดกับพาร์ทเนอร์ของฟีฟ่า ทั้งบัดไวเซอร์ และโคลา-โคล่า แบบเต็มๆ แหม…แค่คิดก็ปวดหัวแล้วครับ

สุดท้ายผมมองว่าจะถ่ายทอดสดช่องไหนไม่สำคัญหรอกครับ กลัวอย่างเดียว คือกลัวจะไม่มีถ่ายมากกว่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ (ฮา)