คำว่า “ภาพพิมพ์” บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นหนึ่งในเทคนิคการสร้างงานศิลปะที่มีมาตั้งแต่ยุคโครมันยองเลยทีเดียว! ใครที่พอจะเคยเห็นภาพเขียนบนฝาผนังถ้ำของมนุษย์ยุคหินก็คงจะนึกภาพออก การนำมือจุ่มสีแดงแล้วแปะบนผนังถ้ำนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของเทคนิค “ภาพพิมพ์”
ถึงแม้จะไม่ค่อยฮิตและไม่ค่อยคุ้นหู แต่การทำภาพพิมพ์นั้นถูกพัฒนาเรื่อยมา และอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด อย่างเช่นการนำเหรียญบาทมาฝนให้เป็นรอยแบบที่ชอบทำกันตอนเด็กๆ นั่นก็เรียกว่าภาพพิมพ์ หรือการสกรีนลายเสื้อยืดแบบนั้นก็เรียกว่าภาพพิมพ์
ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ภาพพิมพ์ ก็คือการที่เรามีแม่พิมพ์หนึ่งอัน(หรือมากกว่า) ในการสร้างงานศิลปะ จะใช้ได้ครั้งเดียว หรือใช้ได้ถาวรก็ได้ และพิมพ์โดยสีหรือหมึกทาบลงไปบนกระดาษ ผ้า อะไรก็ได้ที่ต้องการ ซึ่งข้อดีของมันก็คือ เราสามารถสร้างผลงานที่เหมือนเดิมกี่ชิ้นก็ได้ เพราะเรามีแม่พิมพ์ มักจะนิยมใช้กันในการทำอุตสาหกรรม หรือการทำศิลปะแบบการค้า
แต่ศิลปินที่เลือกจะทำภาพพิมพ์เป็นเทคนิคหลักในชีวิตเลยก็มีเยอะแยะ อย่างเช่น แอนดี้ วอร์ฮอล์ ที่รู้จักกันดี สามารถสร้างงานที่เหมือนกันได้หลายสิบชิ้นโดยไม่ใช้เครื่องจักร แต่ใช้แม่พิมพ์ ซึ่งแม่พิมพ์นั้นจะเป็นอะไรก็ได้ ไม้ กระดาษ โลหะ อลูมิเนียม ทองแดง ยางลบ ฯลฯ แม้แต่ใบไม้ ก็สามารถเป็นแม่พิมพ์ได้
Woodcut หรือ ภาพพิมพ์แกะไม้
น่าจะเป็นเทคนิคที่คนได้ยินกันบ่อยพอสมควร ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เองก็ยังเลือกเป็นเทคนิคแรกในการสอนเพราะมีขั้นตอน ความซับซ้อนน้อยที่สุด
นั่นคือการใช้เครื่องมือแกะไม้แกะลงบนแผ่นกระดานเรียบ ซึ่งส่วนที่แกะออกคือส่วนที่เราไม่ต้องการ และแกะให้เหลือแต่ลวดลายที่ต้องการ จากนั้นก็กลิ้งสีลงไป แล้วก็พิมพ์ลงบนกระดาษ ถึงจะได้รูปออกมา ศิลปินบางคนเองเลือกที่จะใช้กระดานที่แกะเป็นงานศิลปะชิ้นนึงเลย ก็คือแกะแล้วโชว์แผ่นไม้ไปเลย หรือบ้างก็เลือกโชว์ทั้งสองอย่าง
ภาพพิมพ์แกะไม้ถูกพัฒนาและดัดแปลงจนสร้างรายได้ให้หลายๆ คนได้ เช่น การแกะยางลบ อย่างที่เคยได้ยินว่าเริ่มฮิตประมาณ3-4ปีที่ผ่านมานี้ หลักการเหมือนการแกะไม้ทุกอย่าง แค่เปลี่ยนจากไม้เป็นยางลบ หาง่ายขึ้นและทำง่ายขึ้น สามารถใช้หมึกที่เอาไว้ปั๊มตัวปั๊มพิมพ์แทนได้เลย เหมือนเป็นการทำตัวปั๊มด้วยตัวเองนั่นแหละ
ตัวอย่างผลงานภาพพิมพ์ ภาพแรกเป็นการแกะไม้และพิมพ์หลายๆ รอบ หลายสี ส่วนภาพที่สองเป็นการนำสีมาปาดบนกระดานไม้เรียบ เป็นรูปที่ต้องการ แล้วก็พิมพ์ลงกระดาษ
Silk Screen หรือ ภาพพิมพ์ตะแกรงไหม
อันนี้คงชินหูกันหน่อย เพราะมันคือเทคนิคที่เอาไว้พิมพ์ลายเสื้อนั่นแหละ (แต่ก็หายากเหมือนกันที่จะพิมพ์ด้วยมือ เพราะส่วนใหญ่พิมพ์ในปริมาณมาก ใช้เครื่องจักรไปเลยคุ้มกว่า)
อุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากบล็อคพิมพ์ วานิชดำสำหรับวาดรูปลงบล็อค (โดยจะระบายส่วนที่ไม่ต้องการ เว้นช่องที่ต้องการให้เป็นลายเอาไว้เป็นช่องให้สีลงไปสู่กระดาษ หรือผ้า) ไม้ปาดสี สีสำหรับสกรีน(จะเป็นสีที่แห้งเร็วมาก) แล้วก็กระดาษหรือผ้า สำหรับคนที่อยากทำเสื้อแบบแฮนเมดก็จะไม่ยากอย่างที่คิด แต่ต้องมีลองผิดลองถูกกันหน่อย
สำหรับซิลค์สกรีนนั้นเรียกว่าเป็นเทคนิคภาพพิมพ์ของโปรดของ แอนดี้ วอร์ฮอล์ เจ้าพ่อป๊อปอาร์ตเลยก็ว่าได้ เพราะถ้ามีการวางแผน มีกระบวนการดีๆ จะมีข้อผิดพลาดน้อย และสร้างงานได้เยอะตามที่ต้องการ ผลงานที่เราเห็นเรียงๆ กันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องซุป หรือมาริลีน มอนโร ก็เป็นผลงานซิลค์สกรีนทั้งนั้น
สำหรับพาร์ทนี้ขอจบที่สองเทคนิคที่ยังเข้าใจง่ายอยู่ เพราะยังมีเทคนิคภาพพิมพ์ที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และวุ่นวายกว่านี้อีกมาก ด้วยการมีกรดและสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการ นับไปนับมามีขั้นตอนเป็น 10-20 ข้อเลยทีเดียว