นอกจากว่าฟุตบอลจะถือเป็นเรื่องสนุกแล้ว จริงๆ เรื่องของสโมสรเองก็เป็นความรู้ที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะ เรื่องราวการจัดการความปลอดภัยในสนาม การดำเนินธุรกิจในภาพรวมเช่นเรื่องการตลาดเองก็น่าสนใจเหมือนกันนะ แต่การมาทัวร์สนามแบบสไตล์ทัศนศึกษาที่สนามนั้นก็จะแตกต่างออกไปตามอายุของเด็ก และประเทศด้วย วันนี้ผมเลยจะมาเล่าประสบการณ์การมาทัศนศึกษาของเด็กๆ ที่สนามกัน ว่าพวกเขาจะได้ทำอะไรกันบ้าง และผมเคยทำทัวร์แบบไหนให้พวกเขากัน
แต่พูดเลยนะ เห็นเด็กมาแบบนี้เราก็คิดกับตัวเองนะว่า มันคงเป็นเรื่องที่เจ๋งน่าดู ถ้าอาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน และบอกว่า “เราจะไปทัศนศึกษาที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด” กันน่ะ!
ใครมาบ้างล่ะ
เท่าที่ผมเคยทำทัวร์มานั้น ผมก็มักจะได้เจอกับโรงเรียนต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประถม (ที่เด็กกำลังซ่าๆ อยู่เลย) จนไปถึงมัธยมที่คุยเรื่องฟุตบอลรู้เรื่องพอสมควร ที่จะเยอะในช่วงหน้าร้อน คือพวกโรงเรียนจากประเทศต่างๆ ในยุโรปที่เป็นคอร์สซัมเมอร์จากประเทศสเปน อิตาลี และที่เยอะสุดคือจากฝรั่งเศส รวมถึงโรงเรียนสอนภาษาที่จะพามาทัวร์สนามเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มของหน่วยดับเพลิงของเมืองแมนเชสเตอร์ ที่พาเด็กกำพร้ากลุ่มหนึ่งมาทัวร์สนาม ซึ่งทัวร์นี้ยังถือเป็นทัวร์ในความทรงจำของผมเลย เพราะน้องๆ ที่มาทัวร์สนามนั้นมีความอยากรู้อยากเห็นมาก ตอนนั้นยังเป็นตอนที่ผมเพิ่งจะเริ่มงานได้ไม่นาน เลยไม่ค่อยได้พูดมาก แต่พอได้เห็นเด็กๆ ที่มาสนาม มาถามข้อมูลที่น่าสนใจ เราก็รู้สึกได้เลยว่า “ที่นี่เขาปลูกฝังเรื่องฟุตบอลกันมาตั้งแต่เด็ก” เลยนะ
พวกโรงเรียนสอนฟุตบอลต่างๆ เอง ก็เคยมาทัวร์สนามเหมือนกันนะ ผมเคยได้รับทัวร์ที่เป็นกลุ่มเด็กสเปน ที่มาฝึกฟุตบอลในอังกฤษและมาแข่งทัวร์นาเมนต์ที่เชฟฟิลด์ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ซึ่งตอนนั้นเลยกลายเป็นว่าผมก็ต้องทำทัวร์เป็นภาษาอังกฤษ แบบมีสเปนปนๆ บ้างเท่าที่จะพูดได้ แต่ยังดีที่น้องคนหนึ่งที่เป็นนักบอลและเป็นลูกของผู้จัดการทีม พูดได้ทั้งสองภาษา
ดูสนาม และได้ความรู้แน่นอน
น้องๆ หลายๆ คนที่มาทัวร์ที่สนามนั้น อาจจะมีบางคนที่ไม่ค่อยดูฟุตบอล แต่เด็กส่วนมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นทัวร์จากในเกาะอังกฤษ ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้ก็มักจะถามอะไรที่น่าสนใจ สำหรับผมที่เป็นไกด์ ที่มีอายุน้อยที่สุดคนนึง การทำทัวร์กับเด็กๆ นั้นถือเป็นเรื่องสนุกนะ เพราะบางทีเด็กๆ ก็อายุไล่ๆ กับผม เช่นว่าเคยมีโรงเรียนซัมเมอร์ของฝรั่งเศสมาทัวร์ ซึ่งเด็กๆ ก็อายุประมาณ 18-19 ไล่ๆกันมาเลย เราก็เลยได้ทำทัวร์แบบเป็นกันเอง อยากจะถามอะไร เราก็ตอบเต็มที่
แต่สิ่งที่มักจะเห็นกันได้กับทัวร์เหล่านี้ คือเขาจะมาพร้อมกับแบบฝึกหัด เป็นกระดาษมา และให้มาตอบคำถามระหว่างการทำทัวร์ เช่นว่า “สนามมีความจุ่เท่าไหร่” หรือ “ใครบ้างที่สโมสร ที่เคยได้รางวัลบัลลงดอร์” หรือบางทีก็จะถามว่า “ใครเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร” คือจะเป็นคำถาม ที่จะทำให้เด็กๆนั้นต้องฟังระหว่างการทำทัวร์ และสิ่งที่ผมมองจากคำถามเหล่านี้ คือมันเป็นการทดสอบความรู้ของผมไปด้วย แต่ก็ไม่บ่อยนะที่จะเจอคำถามที่ตอบไม่ได้ ยกเว้นว่าเขาจะตั้งคำถาม ที่เราไม่สามารถตอบได้จริงๆ หรือทางสโมสรเก็บไว้เป็น “ความลับ” เอาเป็นว่าเราก็ได้ให้ความรู้เด็กๆ เหล่านี้
เรียนรู้ จากผู้รู้
ก่อนที่มาทัวร์สนาม ทัวร์บางทัวร์เองก็จะมีการเข้าคลาส ที่ทางสโมสรจัดไว้ให้ โดยวิชาเรียนส่วนนี้ ทางพิพิธภัณฑ์จะเป็นคนจัดให้ร่วมกับฝั่งศูนย์การเรียนรู้ของสโมสร โดยคอร์สเรียนนั้นได้รับการรับรองมาหมดแล้วด้วย จึงถือว่าโอเคและได้ความรู้จริงๆ (แต่เด็กก็ต้องฟังนะ)
ในคอร์สเรียนนั้น จริงๆ ผมเองที่เพิ่งจะจบจากมัธยมในตอนนั้นมาประมาณปี สองปี ก็เคยไปนั่งฟังดูเผื่อว่าจะได้ความรู้ ซึ่งเราก็ได้เรียนรู้เรื่องน่าสนใจ เช่นเรื่องการบริหารสปอนเซอร์ เรื่องการเงินสโมสรแบบฟังง่ายๆ และเรื่องการรักษาความปลอดภัยของสนามอีกด้วย ซึ่งล้วนแล้วเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยพวกคอร์สเหล่านี้ ทางศูนย์การเรียน การสอนนั้นจะปรับวิชา ความยากง่าย ให้เข้ากับอายุและโรงเรียนของเด็กที่จะมาทัวร์สนาม เช่นหากว่าโรงเรียนประถมจะมา คอร์สก็จะไม่ลึกเท่ากับโรงเรียนระดับมัธยม หรือคอร์สซัมเมอร์ และถ้าเป็นมหาลัย หรือทีมฟุตบอลมา คอร์สก็จะปรับไปอีกเพื่อให้เข้าถึงนักเรียนได้ง่ายขึ้น
“101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับ” แมนฯยูไนเต็ด คือ เรื่องที่เจาะลึกของสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยร่วมงานกับสโมสรแห่งนี้เป็นเวลากว่าปีครึ่ง โดยนำเสนอเป็นประจำทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ไปจนกว่าจะครบ 101 เรื่อง
ส่วนใครที่พลาดตอนอื่นๆของ “101 เรื่องลึกแต่ไม่ลับ” แมนฯยูไนเต็ดไป สามารถเข้าไปย้อนอ่านกันได้ที่ https://tonkit360.com/tag/101-เรื่องลึกไม่ลับ