หากย้อนกลับไปในยุคที่แฟนกีฬาชาวไทยเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ ลุ้นผลงานของเหล่าบรรดาฮีโร่นักกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ธีรัช โพธิ์พานิช จากยิมนาสติก ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร จากว่ายน้ำ เรวดี ศรีท้าว จากกรีฑา หรือกระทั่งทีมกีฬามหาชน ทั้ง ฟุตบอล และตะกร้อ รู้สึกไหมว่าความเข้มข้นในยุคนั้นมันช่างแตกจากจากยุคปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
ณ เวลานี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ซีเกมส์ 2017” ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งที่ 29 เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมี กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นชาติเจ้าภาพ เหตุใดความฟีเวอร์ของมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงได้ลดถอยลงขนาดนี้ Tonkit360 สรรหาเหตุผลมาฝากกัน
คนไทยไม่รู้จักนักกีฬาไทย
ถ้าไม่ใช่แฟนกีฬาชนิดนั้นๆแบบเข้าไส้ บอกได้เลยว่าเราแทบจะไม่รู้จักรายชื่อของทัพนักกีฬาไทยในซีเกมส์ 2017 ครั้งนี้ ที่พอจะคุ้นหูแฟนกีฬามากที่สุด เห็นจะเป็น 2 นักชกที่เคยผ่านเวทีโอลิมปิกเกมส์ อย่าง ฉัตร์ชัย บุตรดี และวุฒิชัย มาสุข จากมวยสากลสมัครเล่น ขณะที่ฝั่งกรีฑามีเพียง “มิ้ว” จิระพงศ์ มีนาพระ ที่เป็นนักกีฬาบิ๊กเนม
ไม่รู้โปรแกรมถ่ายทอดสด
ซีเกมส์ ซีโกง
ตะกร้อ “ไทย-มาเลย์” สิ้นมนต์ขลัง
ในยุคหนึ่ง แฟนกีฬาจะต้องเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์หากทีมตะกร้อชายไทยลงสนามชิงเหรียญทองกับคู่ปรับตลอดกาลอย่างมาเลเซีย ทว่าในยุคหลังมานี้ บางที “เสือเหลือง” หลุดวงโคจรไม่มาตามนัดบ้าง รวมถึง ก็ต้องยอมรับว่าทีมตะกร้อชายไทยของเราผูกขาดความสำเร็จเหนือมาเลเซียได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในยุคนี้หลายคนเฉยๆกับสกอร์ที่ไทยเราถล่มมาเลเซียขาดลอย ผูกขาดเป็นแชมป์เหรียญทองสมัยที่ 13 ติดต่อกันเข้าให้แล้ว
ฟุตบอลชายไร้ “ซูเปอร์สตาร์”
กีฬามหาชนอย่างฟุตบอลชาย เป็นไฮไลท์ในซีเกมส์มาโดยตลอด ในยุคหนึ่งเราเป็นจ้าวแห่งอาเซี่ยน ในยุคหนึ่งเราเคยหลุดจากบัลลังก์ แต่ในครั้งนี้ ด้วยความที่เป็นทีมชุดดาวรุ่งอายุไม่เกิน 23 ปี ทำให้ไม่มีแข้งแม่เหล็กดึงดูดแฟนบอล หรือบางคนแทบจะไม่เป็นที่รู้จักด้วยซ้ำไป ที่สำคัญฟอร์มการเล่นยังไม่เข้าตา ส่งผลให้สปอร์ตไลท์ส่องไปอยู่ที่ผู้จัดการทีมคนสวย “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี มากกว่า แทนที่จะเป็นนักฟุตบอล